หลังจากวันนั้น แดงกับหนึ่งยังคงคบกันอยู่ แต่ก็ไม่ใกล้ชิดเท่าเดิม ซึ่งแดงก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่า หนึ่งได้ตัดสินใจเลือกแล้ว และคนที่เลือกไม่ใช่เรา บางครั้งก็รู้สึกโกรธแค้น เมื่อย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่บ้านโก้ เพราะเหมือนกับเขาวางแผนไว้เพื่อจะทิ้งเรา และหากเป็นแผนการจริง ก็เป็นแผนการที่ได้ผลค่ะ แดงไม่กล้าคร่ำครวญเรียกร้องอะไรจากเขา สำหรับโก้กับเซียงนั้น ก็พบกันบ้างประสาคนที่อยู่ในเมืองแคบๆ แต่สองคนก็ดีอย่างที่ไม่มาหาที่บ้านอย่างที่แดงกลัวในตอนแรก เซียงนั้นทำท่าจะตื๊ออยู่พักหนึ่งเมื่อทราบระแคะระคายว่าแดงกับหนึ่งเลิกเป็นแฟนกัน แต่แดงต้องการจะลืมเรื่องในวันนั้นให้สนิท จึงพยายามตัดเยื่อใยโดยบอกให้เขาลืมไปด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เป็นโชคดีที่สองคนนั่นเป็นสุภาพบุรุษพอ (หรือแดงอาจจะไม่สวยพอก็ได้มั้ง) ที่ไม่ได้โวยวายอาละวาดอะไร เมื่อสิ้นเทอม ต่างฝ่ายก็ต่างแยกย้าย โก้กับเซียงเข้ากรุงเทพฯ ส่วนหนึ่งนั้นไปช่วยกิจการที่ร่วมทุนกับว่าที่พ่อตาที่จังหวัดใหญ่แห่งหนึ่งใกล้ๆกัน
สำหรับแดงเมื่อเรียนจบ น้าเขยก็ฝากงานให้ที่บริษัทขายและซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่ง ในตำแหน่งเสมียนรายวัน กิจการของเขาก็เป็นลักษณะกึ่งครอบครัว กึ่งตัวแทนจำหน่ายของบริษัทรถยนต์ขนาดใหญ่ยี่ห้อหนึ่ง แดงเองอยู่ในฐานะลูกจ้างส่วนตัวของเจ้าของอู่ ไม่ใช่พนักงานบริษัท เมื่อฝากงานให้ไม่ถึงเดือนดี น้าเขยก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต แดงก็อาศัยอยู่กับน้าสาวและลูกชายคนเดียวของแก เจ้าของบริษัทแก่แล้วค่ะ ชื่อเฮียกวง อายุ 50 กว่าๆ เป็นคนใจดีคบหากับน้าเขยแดงมายาวนาน แต่แกไม่ค่อยได้มายุ่งกับการบริหารงานของบริษัทนัก คงปล่อยให้งานต่างๆอยู่ในมือของน้องชายอายุประมาณ 45 ปี รูปร่างใหญ่ ตอนหนุ่มๆคงหล่อบาดใจทีเดียว เพราะแม้ว่าตอนนี้ศรีษะจะเริ่มเถิกและมีพุงบ้าง ก็ยังถือได้ว่าเป็นคนที่หน้าตาดีคนหนึ่ง เสียงดังท่าทางดุเมื่ออยู่กับลูกน้องผู้ชาย แต่จะอ่อนโยนเป็นคนละคนเมื่อพูดกับสาวๆหรือลูกน้องผู้หญิง ลืมบอกไปเราเรียกแกว่า เฮียแสงค่ะ ถ้าชื่อจีนก็เม้ง ก็มีแต่เฮียกวงเท่านั้นแหละค่ะที่เรียกแกในชื่อจีน เฮียแสงนั้นอีกฐานะหนึ่งรับเงินเดือนในฐานะผู้จัดการสาขาจากบริษัทแม่ด้วย ลูกจ้างในอู่จะแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นพนักงานกินเงินเดือนจากทางบริษัท ซึ่งนอกจากเฮียแสงแล้วก็มีพี่สามารถ อายุราว 35รูปร่างผอมสูง ผิวดำกร้าน หน้าเรียวยาว เป็นนายช่างจากบริษัท มีฝ่ายขายสองคน คนหนึ่งเป็นพนักงานชายชายอายุ 30 เศษ ชื่อวิโรจน์ คนนี้หน้าตาดีค่ะ ขาวสะอาด พูดจาสุภาพสมเป็นเซลส์แมน แต่จะไม่ค่อยอยู่บริษัท ส่วนอีกคนเป็นพนักงานขายหญิง ชื่ออรอนงค์ค่ะ หน้าตาสวยเชียว ขาวผ่องแต่งตัวทันสมัย แดงเรียกสั้นๆว่าพี่อร เพราะอายุประมาณ 25 ปี เป็นเซลส์อยู่ประจำบริษัทและทำหน้าที่พนักงานบัญชีด้วย ส่วนพนักงานอีกกลุ่มก็แบบแดงนี่ละค่ะเป็นลูกจ้างโดยตรงของเถ้าแก่ แต่ก็ถือเป็นลูกน้องของเฮียแสงเช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นช่าง มีแดงคนเดียวที่เป็นผู้หญิงและทำงานอยู่ในออฟฟิศ.................. ที่ปูพื้นฐานมายืดยาวก็อยากให้ท่านผู้อ่านเห็นภาพน่ะค่ะ เพราะในบรรดาที่เอ่ยชื่อมานั้นล้วนเกี่ยวพันกับชีวิตของแดงเกือบทั้งสิ้น.... จำได้ว่าวันแรกที่มาสัมภาษณ์ แดงอยู่ในเสื้อลูกไม้สีชมพู กระโปรงขาวค่อนข้างรัดรูปค่ะ เข้าไปสัมภาษณ์ในห้องทำงานของเฮียแสงคนเดียว..เพราะน้าเขยคุยอยู่กับเฮียกวงทางด้านหลังโรงงานซึ่งเป็นบ้านที่แกอาศัยอยู่หลังเบ้อเริ่ม สายตาที่เฮียแสงมองมาตอนที่เห็นแดงครั้งแรกนั้นเป็นประกายวาววาม ตอนนั้นแดงก็โตพอแล้วที่จะรู้ว่าแกรู้สึกอย่างไร แต่ก็ไม่ตื่นเต้นนัก เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ที่มองเราก็ใช้สายตาแบบนี้ทั้งนั้น แต่แกก็สุภาพค่ะ พูดจาเพราะ แล้วก็เก่งมากจนสาวรุ่นอย่างเรานึกชื่นชมอยู่เหมือนกัน ความจริงแดงต้องการที่จะสมัครเป็นพนักงานขายของษริษัทแม่น่ะค่ะ แต่ไม่มีตำแหน่ง เฮียแสงยกหูต่อโทรศัพท์ไปพูดกับพี่ชายแกสักครู่ก็ตกลงจ้างแดงเป็นลูกจ้างของอู่ ในตำแหน่งเสมียน ก็จิปาถะล่ะค่ะ ตั้งแต่งานธุรการ พิมพ์หนังสือ ช่วยด้านบัญชี ดีที่ยังไม่รวมหน้าที่นักการเข้าไปด้วย ขณะที่ลุกขึ้นลาแกกลับ แกก็เดินออกมาส่ง เอ่ยเสียงต่ำทุ้มว่า “หนูแดงตั้งใจทำงานก็แล้วกัน อย่าให้เสียชื่อน้าสนอง (น้าเขยแดงค่ะ) แล้วถ้าบริษัทมีอัตราจ้างพนักงาน อาจะช่วยฝากให้” ฟังแล้วก็ชื่นใจดีอยู่หรอกค่ะ หากแกไม่เอามือของแกมาแตะที่หลังเราเหมือนจะทำอาการส่งออกนอกประตูห้อง ถ้าแค่นั้นก็คงไม่นึกอะไร นี่แกเล่นลูบลงมาถึงเนินก้นอวบของแดงเหมือนไม่ตั้งใจด้วยค่ะ กริยาของแกทำให้เราคิดหนักเหมือนกันเมื่อกลับมาถึงบ้าน แต่ปลอบใจตัวเองว่าคงไม่มีอะไรเพราะเขาคงเกรงใจน้าเขยเรา ก็ไม่มีอะไรจริงๆค่ะ งานสนุกมาก ตอนแรกก็ทำอยู่ในโชว์รูม พอผ่านไปอาทิตย์กว่า เฮียแสงแกก็จัดให้เราขึ้นไปนั่งทำงานในห้องแกซึ่งเป็นชั้นลอย ทำหน้าที่เลขานุการของแกด้วย ระหว่างนี้แกก็ทำกริยาหมาหยอกไก่ ชอบแตะเนื้อต้องตัวเรา ซึ่งบางครั้งก็ทำเอาอารมณ์สาวของเราวูบวาบไปได้เหมือนกัน อย่างที่บอกค่ะ ท่าทางแกเป็นแมนมากคนหนึ่งทีเดียว ช่วงนั้นแดงเองก็ไม่มีใคร กับน้าเขยก็ไม่มีค่ะ เหมือนแกรู้ตัวว่าแกจะตาย พอทำงานได้หนึ่งเดือนน้าเขยก็ตาย..... คราวนี้ความเป็นเฒ่าหัวงูของแกก็เริ่มฉายแววมากขึ้นค่ะ บางทีก็พูดทีเล่นทีจริง เช่น กระเซ้าว่าจะรับเลี้ยงเอามั้ย (แกเป็นพ่อม่ายเมียหย่าค่ะ) ขอสมัครเป็นแฟนบ้างแล้วจะขึ้นเงินเดือนให้ อะไรทำนองนี้ ไม่เพียงคำพูดค่ะ สายตาและมือไม้ก็พลอยไปด้วย โดยเฉพาะวันไหนถ้าแดงใส่เสื้อคอกว้างๆเห็นร่องอกขาวละก็แกชอบมายืนท้าวโต๊ะอยู่เป็นประจำ อีกจุดที่แกชอบก็คือสะโพกอวบกลมกลึงของแดงค่ะ ส่วนมือไม้นั้น บางทีก็ลูบผม ลูบแขน จับไหล่บ้างเป็นประจำ ซึ่งแดงก็ไม่อาจทำอะไรได้ เพราะจะว่าหยาบคายก็ไม่ถือว่าหยาบคาย กึ่งๆเหมือนผู้ใหญ่หยอกเด็กน่ะค่ะ อีกอย่างหลังจากน้าเขยเสีย เงินทองที่แกเคยหยิบยื่นให้บ้างก็ขาดไป จึงไม่มีทางเลือก แต่ก็ยอมรับนะคะว่าตัวเองก็รู้สึกชื่นชมเขาอยู่ลึกๆ โดยเฉพาะเวลาเขาสั่งการลูกน้อง หรือแก้ปัญหาให้ลูกค้านี่ ถือได้ว่าเป็นคนละคนทีเดียว ดูเก่งแบบนักเลงๆ แล้วก็จริงใจตรงไปตรงมา ดังนั้น บางครั้งที่เขาถูกเนื้อต้องตัวเรา ในบางอารมณ์นะคะ บอกตรงๆว่ารู้สึกอบอุ่น และบางครั้งวูบหวิวด้วยค่ะ เลยปลอบใจตัวเองว่าเขาก็คงทำท่าหมาหยอกไก่ไปแบบนั้น ไม่มีเจตนาชั่วร้าย มารู้ว่าตัวเองคิดผิดถนัดก็เมื่อย่างเข้าเดือนที่สามแล้วค่ะ วันนั้นเป็นวันเสาร์ ปกติที่บริษัทจะทำงานครึ่งวัน แต่เฮียแสงแกบอกให้อยู่ช่วยพิมพ์รายงานผลงานรอบครึ่งปีให้แก แดงก็ไม่ขัดอยู่แล้วค่ะ เพราะจะได้ค่าโอทีด้วย สรุปว่าตอนกลางวันแกก็พาไปนั่งกินข้าว ไปกันหลายคนค่ะ พอบ่ายโมงแกก็ส่งกุญแจห้องกับลิ้นชักให้บอกให้แดงกลับมาก่อน ต้นฉบับอยู่ในลิ้นชักของแกให้ไขเอา ก็สังหรณ์อยู่เหมือนกันค่ะว่าเฮียแกจ้องดูเราด้วยสายตาวาววามมากกว่าที่เคย วันนั้นแดงอยู่ในชุดเสื้อยืดคอปกสีแดง กางเกงยีนส์สีขาวค่ะ มันค่อนข้างจะอวดสะโพกกับเนินหน้าขาพอสมควร และตรงนั้นล่ะค่ะที่แกชอบจ้อง จนกระทั่งเราเองก็อดรู้สึกวูบวาบขึ้นมาไม่ได้เหมือนกัน ก็แหมมันตั้งสามเดือนกว่าแล้วค่ะ ที่แดงว่างเว้นในเรื่องนั้นมา จะมีบ้างก็ช่วยตัวเองระหว่างอาบน้ำบ้าง หรือก่อนนอนบ้างเวลาที่เลือดลมของผู้หญิงมันแล่นพล่านตามวาระ เมื่ออยู่ในห้องทำงานบนชั้นลอยตามลำพัง แดงก็หยิบกุญแจไขลิ้นชักขนาดใหญ่ที่โต๊ะเฮียแสง ต้นฉบับรายงานวางอยู่บนสุด แต่พอเอื้อมหยิบมันขึ้นมาสายตาเหลือบไปเห็นหนังสือที่วางอยู่ข้างใต้รายงานนั้น ก็รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งร่าง มันเป็นหนังสือโป๊ชั้นดีของเมืองนอกค่ะ จำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไรแต่น่าจะเป็นภาษาเยอรมัน หน้าปกเป็นภาพการร่วมเพศของคู่หญิงชายฝรั่ง ชนิดที่เรียกว่ากระจ่างสายตา ในวัย 22 ย่าง 23 แบบนั้น เลือดลมสาวยังระอุอยู่ค่ะ แม้ว่าจะมีประสบการณ์มาเรียกได้ว่าพอตัวแล้ว แต่ภาพที่เห็นทำให้แดงใจเต้นระส่ำ รู้สึกร้อนวาบซ่านจากท้องน้อยแผ่ลามไปทั้งตัว อดไม่ได้ที่จะหยิบมันขึ้นมา แล้วก็พบว่าข้างใต้ของมันก็ยังมีเล่มอื่นๆอยู่อีกหลายเล่ม รู้สึกว่าตนเองหายใจหอบถี่ จึงนั่งลงบนเก้าอี้หนังตัวใหญ่ของเฮียเขาแหละค่ะ ค่อยๆพลิกเปิดดูท่วงท่าการร่วสมเพศที่เร้าใจนั้น นางและนายแบบฝรั่งรูปร่างใหญ่ซึ่งก็หมายถึงทุกส่วนย่อมใหญ่ตามไปด้วย ใบหน้าที่แสดงออกถึงความกระสันต์เสียวทำให้พลอยคิดไปถึงความรู้สึกเสียวสุขที่ตนเองได้รับยามเมื่อร่วมรัก กับผู้ชาย ขาอวบของแดงค่อยๆ หนีบเข้าและคลายออกเป็นจังหวะ จากช้าสู่เร็วอย่างไม่รู้ตัว กลีบแคมบดสีกับเนื้อกางเกงหนาผ่านผ้ากางเกงในบางเบา รู้สึกร่างกายที่ขับหลั่งของเหลวออกมาจนเริ่มฉ่ำชื้น ภายในบีบเบาๆเป็นจังหวะ ตามแผ่นภาพที่ผ่านตาไปจนกระทั่งถึงภาพที่เสร็จสิ้นการร่วมรัก หยาดน้ำขาวขุ่นอยู่บนหน้าท้องเนียนของนางแบบซึ่งปรือตาอย่างสมสุข แดงก็ยอมจำนนต่ออารมณ์ของตนและต้องการปลดปล่อยมันเสียที.....เมื่อคิดว่าหากใครเข้ามาต้องได้ยินเสียงเปิด ประตูชั้นล่าง และหากจะเห็นภาพในห้องนี้มีอยู่ทางเดียวคือต้องขึ้นมาบนชั้นนี้ จึงเชื่อได้ว่าปลอดภัย แดงจึงเอนตัวลงพิงพนักนุ่มแสนสบาย หลับตาผ่อนลมหายใจปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอย ภาพแรกที่นึกถึงคือใบหน้าของชาติ จากนั้นก็เป็นภาพในเถียงนาซึ่งเราทั้งสองต่างบดร่างเปลืยเปล่าสั่นเทาทั้งคู่ด้วยกัน นึกถึงความตึงแน่นหน้าท้องควบคู่ไปกับความเสียวซ่านเมื่อร่างกายถูกสอดใส่ครั้งแรก ความสดชื่นเย็นฉ่ำท่ามกลางกระแสฝักบัวโดยมีใบหน้าของหนึ่งไล่ละไปตามหน้าท้องเนียนของตน ใบหน้าที่แสดงถึงความต้องการของเขาและเสียงพร่ำชื่นชมความงดงามของร่างเราที่เปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้า มันเหมือนการฉายสไลด์ภาพที่เกิดขึ้นจริงในอดีตที่ผ่านเข้าสู่ห้วงสมอง พร้อมๆกันนั้น มือข้างหนึ่งก็กดเน้นช้าๆที่เนินเนื้อหน้าท้อง ในขณะที่ท้องแขนอีกข้างหนึ่งทาบเน้นหนักบนเต้าหยุ่นของตนเอง เสียดสีจนปลายของมันชี้ชันขึ้นรับสัมผัสจนขนลุกด้วยความเสียววาบที่แล่นไปตามร่าง มือด้านล่างเลื่อนไปเกาะกุมเนินเนื้อหน้าขาของตนไว้กดเน้นหนักหน้าขาซึ่งบัดนี้อ้าออกเหยียดยันกับพื้น กดคลึงกระตุ้นเร้าหนักๆอยู่ภายนอก ชั่วอึดใจ ก็ทนไม่ไหว ลืมตาขึ้นกวาดมองไปรอบๆอีกครั้ง ก่อนที่จะปลดเปลื้องกระดุม รูดซิปให้เผยออ้าออกรูดรั้งมันลงมาพันตนขาขาวของตนเอง ก่อนที่จะสอดมือลอดผ่านขอบกางเกงในตัวบางเข้าไปสัมผัสกับความลื่นฉ่ำ นิ้วหัวแม่มือทาบเม็ดเนื้อซึ่งบัดนี้ถูกหล่อเลี้ยงจนเต่งตั้งขึ้นมา ขากระตุกหนีบเข้าอย่างไม่ตั้งใจเมื่อเนื้อที่ไวต่อความรู้สึกนั้นถูกสัมผัสตรงๆด้วยนิ้วมือของตนเอง อีกสามนิ้วเคล้นคลึงกลีบแคม ระว่างที่ผ่อนลมหายใจช้าๆด้วยความรู้สึกสุขสม จากนั้นนิ้วกลางก็ปักดิ่งลงไปภายในงอรั้งควานคลึงผนังหยุ่นย่นของตนจนต้องกัดฟัน ชั่วไม่นานหลืบช่องภายในก็กระตุกถี่เร็ว เสียวจนต้องแอ่นร่างบิดเกร็งทาบพนักเก้าอี้แน่นจนมันเคลื่อนล้อถอยหลังไปนิดหนึ่ง มโนภาพสุดท้ายของความสุขสมกับเป็นภาพของตนเองกำลังแอ่นหยัดรับการกระแทกกระทั้นจากเซียง ท่ามกลางสายตาของโก้และหนึ่งที่จับจ้องอยู่เหนือช่องลม มีเวลาผ่อนลมหายใจอยู่บนเก้าอี้ไม่นานนัก..... เสียงประตูหน้าโชว์รูมถูกผลักเปิดดังลอดขึ้นมา แดงรีบผวาร่างลุกขึ้น กวาดหนังสือที่กางแผ่บนโต๊ะลงเก็บไว้ตามเดิม ก่อนที่จะรูดรั้งกางเกง แล้วลุกขึ้น พลันสายตาเหลือบไปเห็นที่นั่งเป็นคราบชื้นจากน้ำที่หลั่งออกมา จึงรีบคว้ากระดาษทิชชูบนโต๊ะขึ้นเช็ดจนหมดจด ก่อนที่จะพาร่างซึ่งสั่นเทาเพราะความหวุดหวิดจวนเจียนพร้อมต้นฉบับรายงานไปนั่งที่โต๊ะของตน..ยังไม่ทันหายจากอาการหอบดี เฮียแสงก็เปิดประตูเข้ามา “เป็นไงแดง หาเจอมั้ย” เขาทักด้วยเสียงทุ้ม หน้าตาแดงเรื่อ เข้าใจว่าคงดื่มเบียร์มาบ้างค่ะ แต่ไม่มีอาการว่าเมา แล้วก็เดินมายืนข้างๆแดง “ค่ะ เพิ่งเจอ เฮียแสงจะรีบเอาเหรอคะ” “ฮื่อ ว่าจะส่งวันจันทร์นี้ เหงื่อซึมเชียว เป็นอะไรไปล่ะ ท่าทางเหนื่อยๆ ไม่เปิดแอร์ล่ะ ร้อนแย่ แกพูดยิ้มๆ จ้องหน้าจนแดงต้องหลบสายตาค่ะ รู้สึกกระดาก เพราะเขาต้องรู้ว่าถ้าแดงหยิบต้นฉบับรายงานต้องเห็นหนังสือเหล่านั้นแน่นอน แต่ก็ไม่ได้คาดคั้นคำตอบจากแดงอีก เดินไปเปิดแอร์ ปิดบานกระจก แล้วก็ไปนั่งที่โต๊ะของแก ส่วนแดงก็เริ่มพิมพ์หนังสือ ตอนนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์ยังไม่แพร่หลายค่ะ ต้องพิมพ์ด้วยพิมพ์ดีดไฟฟ้า แกทำอะไรง่วนอยู่สักพัก ก็เอ่ยเหมือนเปรยๆ “เฮียชอบสะสมหนังสือพวกนี้น่ะ เพื่อนเอามาฝากบ้าง ซื้อตอนไปดูงานบ้าง เมื่อกี้ก็ลืมเก็บให้เรียบร้อยคงไม่ว่าเฮียลามกนะ” จะแกล้งทำเป็นไขสือก็ไม่ได้ เลยตอบไปว่า “แหม เฮียเล่นเอาหนูตกใจเลยตอนหยิบต้นฉบับน่ะ” “ตกใจอย่างเดียวเหรอ แอบเปิดอ่านรึเปล่า” แกถามมาด้วยน้ำเสียงทำนองกระเซ้า เล่นเอาเราหน้าแดง นึกในใจว่าไม่ใช่แค่ดูหรอกเฮีย “แค่เห็นก็ตกใจแล้วค่ะ น่าเกลียดออก” “ไม่ได้ดูจริงเหรอ แล้วทำอะไรอยู่ตั้งนานถึงเพิ่งเริ่มพิมพ์ละนี่” ไม่นึกว่าแกจะถามตรงๆแบบนี้ เล่นเอาอึกอักอยู่พักหนึ่ง “หนูมัวแต่เข้าห้องน้ำอยู่ค่ะ เพิ่งขึ้นมาเมื่อนี้เหมือนกัน” “อย่างว่าแหละ เฮียไม่มีลูกไม่มีเมีย ถ้าไม่ดูรูปพวกนี้บ้างมีหวังเฉาตาย แดงจะยืมไปดูบ้างก็ได้นะ ล้อเล่นน่ะ อย่าโกรธล่ะ” “หนูจะไปโกรธเฮียได้อย่างไร เฮียมีบุญคุณกับหนูมาก” “อือม์ คิดถึงพี่สนองเค้าเหมือนกัน เมื่อก่อนแกมากินเหล้ากับเฮียกวงแล้วก็เฮียอยู่บ่อยๆ นี่สองเดือนแล้วสิ” แกพูดถึงน้าเขยของแดงที่ตายไป “ค่ะ สองเดือนแล้ว” แดงตอบสั้นๆ ตลอดเวลาที่คุยกันนี้ แดงหันหลังให้แกตลอดค่ะ “อือม์ บ้านคงเงียบแย่ แล้วน้าสาวมีคนมาจีบบ้างมั้ย” “แกยังซึมๆอยู่เลยค่ะ เฮียสนใจมั้ยล่ะ” คราวนี้แกหัวเราะเสียงดัง เสียงหัวเราะของเฮียแสงเป็นอีกอย่างที่แดงชอบ เพราะมันใสกังวานดูจริงใจ “เกรงใจพี่สนอง ถ้าเป็นหลานสาวล่ะก็ว่าไปอย่าง”ในที่สุดก็โดนแกเกี้ยวเอาอีกจนได้ค่ะ โดนมาบ่อยจนเริ่มชิน ปากเลยเผลอตอบโต้กลับไป “จริงไม่กลัว กลัวแต่ไม่จริงน่ะสิ” มีเสียงขยับเก้าอี้แล้วก็ฝีเท้าเดินใกล้เข้ามาจากทางด้านหลัง ไม่กล้าหันกลับไปดูหรอกค่ะ นึกอยากตบปากตัวเองที่พูดออกไปแบบนั้น ยิ่งอยู่กันสองต่อสองแบบนี้ด้วย แล้วใจก็เต้นไม่เป็นส่ำ เมื่อมือใหญ่มีพลังของเขาบีบเบาๆที่ไหล่อิ่มของตนเอง เสียงเขาแผ่วต่ำ “แดงเฮียพูดจริงๆนะ เฮียรู้ว่าแดงเองก็มีภาระต้องส่งเงินให้แม่กับน้อง ตัวแดงเองก็กำลังเรียนต่อ เฮียเองก็เป็นม่ายมาหลายปีแล้ว” การรุกจู่โจมแบบนี้ทำให้แดงอึกอักตอบอะไรไม่ถูก ได้แต่เงยหน้าขึ้นยิ้มเขินๆให้เขา แต่เมื่อสบแววตาวาววามนั้น ก็ต้องรีบหลบตาวูบ แก้มร้อนผ่าว อึกอักตอบ “แดงพูดเล่นน่ะค่ะ” “แต่เฮียพูดจริงๆนะ เฮียอยากมีแม่บ้านสักคน” มือที่บีบไหล่อยู่เริ่มเคลื่อนไหวเป็นบีบไล้สลับกับบีบเบาๆ ความรู้สึกวูบวาบถูกส่งผ่านไหล่ของตัวเองไปทั่วร่างจนใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง “เฮียเพิ่งรู้จักหนูเอง ทำไมถึงตกลงปลงใจง่ายอย่างนี้” เสียงของตัวเองเริ่มสั่น กึ่งกลัว กึ่งอยากรู้ “ใครบอกล่ะ น้าเขยแดงน่ะ เขาชมแดงให้ฟังเสมอๆแหละ ยิ่งมาทำงานใกล้ๆแบบนี้เฮียยิ่งชอบหนู” คำตอบนั้นทำเอาแดงใจหายวาบเลยค่ะ เพราะไม่รู้ว่าน้าเขยไปพูดอะไรไว้บ้าง ยิ่งตอนเมาๆด้วย “น้าเขาก็พูดไปงั้นแหละมั้งคะ” “เปล่า เขาพูดถึงบ่อย บอกว่าแดงขยันเรียน ช่วยงานบ้านสารพัด ไว้ใจได้ ดูเหมือนจะพูดถึงแดงมากกว่าเมียตัวเองซะอีก” ขณะที่พูด มือใหญ่ที่แข็งแกร่ง ตัดเล็บสะอาดสะอ้านของเขาไล้เบาๆอยู่ที่ช่วงไหล่ และบางครั้งใช้นิ้วเขี่ยสัมผัสที่เนื้อแท้ๆของต้นคอขาวผ่องของแดงค่ะ บอกตรงๆว่าขนลุก แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ตัว พิมพ์งานไปพลางตอบโต้ไปพลาง ซึ่งตอนนี้พิมพ์ผิดพิมพ์ถูกไปหมดแล้วค่ะ แวบหนึ่งของความคิดเห็นว่าตอนนี้เป็นโอกาสหนึ่ง “หนูจะได้บรรจุเป็นเซลส์กับเขาบ้างไหมนี่” แดงถามพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขาเพื่อดูความจริงใจ แต่กลับพบว่าสายตาของเฮียแสงจ้องลอดคอเสื้อจับอยู่ที่เนินอกของแดงค่ะ แดงปลดกระดุมคอเสื้อออกตั้งนานแล้วเพราะในห้องมันร้อน แกคงมองเห็นทั้งเต้ากลมตึงแน่นของเราเลยก็ว่าได้ เล่นเอาเราหน้าแดง รีบจับคอเสื้อให้แนบกันกลัดกระดุม นึกว่าเฮียเขาหลบตาแบบผู้ชายคนอื่นๆที่ถูกจับได้ แต่เปล่าค่ะ “ปิดทำไมล่ะ สวยดีออก ดูไปเฮียก็เอาไปไม่ได้เสียหน่อย” “เฮียนี่ตาซนแล้วยังมาพูดให้เขินอีก ว่าไงคะ แดงมีโอกาสได้บรรจุมั้ย” เฮียแสงหัวเราะเบาๆ คว้าเก้าอี้ตัวเล็กมานั่งข้างๆ ทำเหมือนต้องการตรวจต้นฉบับที่พิมพ์ “ได้สิ นี่สิ้นปีอรเค้าก็จะย้ายไปโคราช ถึงตอนนั้นเฮียจะเสนอให้บริษัทบรรจุแดง” “บริษัทเขาไม่มีคนอื่นหรือคะ” “ส่วนใหญ่เขาให้โอกาสสาขาเสนอชื่อก่อน แดงเองก็มีคุณสมบัติครบนี่ วุฒิก็ปวส. บุคลิก หน้าตาดีอยู่แล้ว ทำความเข้าใจเรื่องรถที่เราขายอยู่อีกหน่อยก็ใช้ได้ สำคัญว่าช่วงนี้ตั้งใจทำงานก็แล้วกัน” น้ำเสียงและสีหน้าของแกส่อความหมายของประโยคว่า ช่วงนี้ตามใจเฮียก็แล้วกันมากกว่าค่ะ ระหว่างที่พูด เฮียแสงก็เอื้อมมือมากดคลึงต้นคอเบาๆ สำหรับแดงตอนนั้นได้แต่นิ่งเฉย รู้สึกดีใจที่เขารับคำเรื่องานก็เลยไม่รู้จะห้ามเขายังไง หันไปยกมือไหว้ขอบคุณเขา เฮียแสงถอนมืออกมาเพื่อรับไหว้ แล้วแถมด้วยการลูบเรือนผมนุ่มของแดงค่ะ “ตอนนี้เลิกกับแฟนแล้วเหรอ” หลังจากเงียบไปชั่วครู่เขาก็เอ่ยถามขึ้น เล่นเอาแดงสะดุ้งค่ะ ต้องเป็นน้าเขยแดงแน่ๆเลยที่เล่าให้เขาฟัง แต่นิสัยผู้หญิงทำให้ปฏิเสธออกไป “ใครบอก น้าสนองอีกล่ะสิ ก็แค่เพื่อนคบๆกันธรรมดาน่ะค่ะ” “ก็ดีจะได้ไม่มีปัญหา เดี๋ยวจะกลายเป็นเฮียแย่งแฟนเด็กไป” คราวนี้มือขวาของแกวางแปะมาบนช่วงขาอ่อนของแดงค่ะ แม้ว่าจะมีกางเกงยีนส์เนื้อหนาขวางอยู่ แต่ก็รู้สึกได้ว่าเขาขยับนิ้วเหมือนต้องการสำรวจความแน่นของเนื้อ แดงได้แต่ทำเหมือนไม่รู้สึกตัว แต่มือเริ่มสั่นน้อยๆ บอกไม่ถูกว่ากลัว อยากลอง หรือเขินอาย แต่ที่แน่ๆพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกไปหมดแล้วค่ะ “อะไรกัน หนูยังไม่ได้ตกลงอะไรเลยนะ” “ก็รีบตกลงเข้าสิ ช้าเดี๋ยวเฮียเปลี่ยนใจนะ” ประโยคนี้แกชะโงกหน้าเข้ามากระซิบข้างหูแดงค่ะ ใกล้ชนิดที่สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ แดงขยับจะเบี่ยงหน้าหนีปรากฏว่าถูกเขาจับรั้งใบหน้าเข้ามาแนบหน้า ริมฝีปากร้อนผ่าวและไรหนวดบางๆสัมผัสกับแก้มเต่ง รู้สึกเหมือนกับถูกไฟฟ้าชอร์ต มันวูบวาบชาไปทั่วร่าง ทั้งตกใจ ทั้งอาย แขนขาอ่อนแรงไปชั่วขณะ เขายังคงกระซิบต่อ “หนูแดงสวยน่ารักมาก หอมด้วย เฮียอดใจไม่ไหว” ใบหน้าของเขาซอนไซร้ที่ซอกคอขาวในขณะที่ทั้งสองแขนโอบรัดร่างเราเข้าไป ในขณะที่เองเองก็พยายามดิ้นรนเอนร่างหนีและใช้สองแขนยันไว้ แต่ไม่ถนัดเพราะระยะมันประชิดเกินได้แต่มองหน้าเขา สะอื้นอ้อนวอน “เฮียปล่อยหนูเถอะค่ะ เฮียเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ” ดูเหมือนจะได้ผลค่ะ เขาถอนใบหน้าออกไปแต่สองมือยังจับไหล่ของเราอยู่ จ้องหน้าด้วย สายตาที่มีแววเหมือนขอความเห็นใจ ในขณะที่แดงน้ำตาปริ่มเพราะตกใจ รีบก้มหน้าซ่อนไว้ “เฮียขอโทษ เฮียรักแดงจนอดใจไม่ไหวจริงๆ แล้วก็พร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง หากแดงตกลง” เขาลูบไล้ศีรษะไปด้วยคล้ายๆจะปลอบให้หายตกใจ มือของเขาดูเหมือนมีพลังอะไรบางอย่างอยู่ค่ะ มันเป็นกระแสของความอบอุ่นที่แดงไม่ได้สัมผัสมานานแล้ว “ทำไมเฮียมาสนใจหนู คนอื่นมีตั้งเยอะแยะ” “ไม่รู้สิ เฮียนึกชอบหนูตั้งแต่ได้ยินพี่สนองพูดถึงแล้ว ยิ่งพอได้เห็นตัวจริงยิ่งปักใจชอบ เฮียอยู่ตัวคนเดียว ลูกเมียก็ไม่มี แดงไม่มีอะไรที่จะต้องกังวล” “แต่หนูไม่ได้รู้สึกกับเฮียแบบนั้นนี่ หนูเคารพเฮียเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง” “งั้นวันนี้เฮียจะเปลี่ยนความรู้สึกหนูเอง” แดงจำได้ว่าสีหน้าของแกขณะที่พูดประโยคนี้เหมือนคนที่ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ และก่อนที่จะทันตั้งตัว ก็ถูกโอบไหล่ด้วยแขนที่แข็งแรง รวบร่างเข้าตะแคงพิงกับร่างเขา เฮียแสงกดใบหน้าลงมาบนเต้านมนอกเสื้อ แล้วคลุกเคล้าส่ายบดไปทั่วตั้งแต่พวงแก้ม ช่วงคอที่เงยหงาย ในขณะมืออีกข้างซึ่งหนีบแขนอีกด้านของแดงอยู่ก็ตะปบกุมเข้าที่นูนเนินหว่างขาของแดง รวดเร็วจนไม่อาจหนีบขาปิดป้องได้ทัน เมื่อเทียบขนาดร่างกายกันแล้ว แดงตัวเล็กมากค่ะ และเรี่ยวแรงเขาก็มาก ทำให้ไม่อาจดิ้นรนได้มากนัก ได้แต่ร้องห้ามด้วยเสียงที่สั่นเครือโดยไม่กล้าที่จะร้องตะโกน ส่วนเขาก็พึมพำอ้อนวอนให้แดงยอมเป็นของเขา จังหวะหนึ่งเฮียแสงใช้มือถลกรั้งชายเสื้อยืดขอ'แดงขึ้นจนถึงคอ เผยให้เห็นเนื้อเนียนขาวและเต้าคู่งาม เขาทาบใบหน้าลงไปบนเนื้อเปลือยใต้ยกทรง แดงจึงไม่อาจถลกรั้งชายเสื้อลงมาปกปิดได้ นึกอยากจะจิกผมขยุ้มหน้าเขาขึ้นมา แต่ความนับถือเกรงกลัวก็ทำให้ยั้งไว้ คงใช้แต่เพียงมือทั้งสองผลักยกใบหน้าของเขา แต่ก็ไร้ผล เพียงไม่นานยกทรงสีเหลืองสดก็ถูกเขาใช้นิ้วเกี่ยวรั้งขึ้น จนเต้าข้างขวาออกมาอวดความขาวสล้างและยอดแดงเข้มของมัน แดงสะดุ้งเมื่อเขาเลื่อนใบหน้าขึ้น แล้วใช้ปลายลิ้นตวัดไล้ที่ยอดเข้มนั้น ก่อนที่จะขบเม้มริมฝีปากเบาๆ ถึงตอนนี้ กล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างดูเหมือนจะไร้เรี่ยวแรงไปหมดแล้วค่ะ จึงเบือนหน้าหนีภาพที่ตัวเองถูกรุกรานและร้องอ้อนวอนเขาอยู่เป็นระยะๆ เบื้องล่างซิบกางเกงถูกรูดลงแล้วถัดจากนั้นเนินเนื้อของตนก็สัมผัสกับนิ้วใหญ่แข็งสองสามนิ้วที่สอดไล้เข้ามา ภายนอกกางเกงในบางเบาก่อนที่จะแหวกขอบเข้าไปทาบร่องแคม มันความคลำอยู่ไม่นานก็พบเป้าหมายที่ปลายจงอยเนื้อ ขาขอ'แดงกระตุกเบาๆ เมื่อมันทาบคลึงลงไปช้าๆ แต่หนักหน่วงและแนบสนิท “อูย ...อย่าค่ะเฮีย ปล่อยหนูเหอะ” เสียงครางแรกที่พ้นจากปากบอกให้ทั้งเขาและตัวเองรู้ว่ากำลังจะต้านทานไม่ไหวแล้ว ตามมาด้วยเสียงแผ่วที่รอดไรฟันออกมาทั้งที่พยายามสะกดกลั้น นั่นยิ่งทำให้เขาเร่งเร้าทั้งข้างบนข้างล่างมากขึ้นไปอีก ชั่วไม่นานริมฝีปากก็เผยอรับการจูบของเขา มือเริ่มโอบรั้งศีรษะแทนอาการตอบรับ ปลายลิ้นใหญ่หนาของเขาแทรกผ่านไรฟันเข้ามาอยู่ในกระพุ้งปากแดง แตะสัมผัสจนกระทั่งแดงเองก็อดไม่ได้ที่จะควานลิ้นของตนเกี่ยวกระหวัดรับสัมผัสจากลิ้นของเขาบ้าง เมื่อแดงหยุดดิ้นรน มือของเขาทั้งสองข้างก็สามารถเคลื่อนไหวได้ถนัดขึ้น ข้างหนึ่งลูบไล้เนื้อเนียนและสองเต้าด้านบน อีกข้างกำลังปลดกระดุมกางเกงยีนส์ตัวหนา จังหวะที่เขาถอนริมฝีปากออก สายตาของเราประสานกัน แดงรู้ตัวดีว่าหน้าแดงซ่านเพราะความเขินอาย รีบรั้งใบหน้าเขาซบกับแก้มตนเอง ซึ่งเฮียแสงก็สนองตอบ หนวดที่โกนใหม่เสียดสีกับเนื้อเนียนของพวงแก้ม ไล่มาตามซอกคอจนแดงหลุดเสียงหัวเราะออกมาเพราะความจั๊กจี้ “เฮีย พอแล้วค่ะ แดงจั๊กจี้ อุ๊ยอย่าถอดกางเกงแดงนะ เดี๋ยวใครขึ้นมา” “ไม่มีใครมาหรอกน่า นะคนดี ให้เฮียได้หอมแดงทั้งตัวหน่อย”ขณะที่พูดปากเขาก็เลื่อนลงสู่สองเต้า เลียไล้จนมันชื้นไปด้วยน้ำลาย พร้อมกับปลดตะขอบราเซียร์ มันก็แปลกนะคะ ขณะที่ปากร้องว่าอย่า แต่กลับขยับร่างให้เขาปลดเปลือยบราเซียร์และเสื้อยืด จนร่างท่อนบนเปลือยเด่นโชว์ความอวบอัดขาวสล้างอยู่กลางแสงนีออน (กระจกห้องติดฟิล์มหนาค่ะ) เฮียแสงคลุกเคล้าใบหน้าไปทั่วสัดส่วนที่เปลือยเปล่านั้น ในขณะที่แดงปล่อยตัวเองให้ล่องลอยไปตามความรู้สึกที่ได้รับ จะมีก็เพียงมือไม้เท่านั้น ที่ขยับจับเนื้อตัวเขาในบางจังหวะที่เกิดความซ่านเสียวขึ้นมา การโลมไล้ของเฮียแสงเป็นไปอย่างช้าๆแต่หนักแน่นอยู่ในที ซึ่งต่างจากหนึ่ง รายนั้นค่อนข้างรวดเร็ว ฉาบฉวย ดังนั้น แต่ละจุดที่เขาเคลื่อนใบหน้าผ่าน จึงทำให้แดงถึงกับสะอึกครางแผ่วๆ เกร็งแขม่วแผ่นท้อง เมื่อเขาวนลิ้นแผ่วรอบๆสะดือ “แดงขาวเหลือเกิน น่ากินไปทั้งตัว” เขาพึมพำออกมา ก่อนที่จะลดใบหน้าต่ำลงไป พร้อมๆกับใช้สองมือจับรั้งของกางเกงยีนส์ตัวฟิต ให้รูดลงไปพันที่ต้นขาพร้อมกางเกงในตัวบาง อวดสะโพกกลมกลึงขาวผ่อง เนินเนื้อและกลุ่มขนบางๆกลางกาย เฮียแสงขยับลูกจากเก้าอี้มาคุกเข่าอยู่ตรงกลางขาทั้งสองข้าง แดงมองเห็นเขาจับจ้องตรงนั้นด้วยสายตาที่เป็นประกาย “สวยจริงๆ” แล้วทำท่าเหมือนจะซบหน้าลงไปแต่คราวนี้แดงไม่ยอมเอามือลงไปปิดหน้าขาไว้ “ไม่นะเฮีย มันไม่ดีค่ะ” เขาเองก็คงนึกได้ถึงวัยที่แตกต่างกัน อาจจะนึกกระดากขึ้นมากระมังคะ จึงลุกขึ้นยืน พร้อมกับฉุดดึงแดงขึ้นมาโอบกระชับ มือลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเปลือย สูดดมที่เรือนผม เมื่อยืนเต็มตัวเช่นนี้แล้ว หน้าผากแดงก็เสมอริมฝีปากของเขาเองค่ะ “เป็นของเฮียเถอะนะ แดงจ๋า” เขากระซิบแผ่วที่ข้างหู ถึงตอนนี้แดงก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรแล้วค่ะ เพียงแต่รู้สึกว่าถ้ามีอะไรกันในนี้มันคงไม่ค่อยเหมาะ “ไปที่อื่นเถอะค่ะ ในนี้มันห้องทำงาน” จำได้ว่าตัวเองงึมงำตอบเขาอย่างอายๆไปแบบนั้น แต่เขาส่ายหัว “เฮียทนไม่ไหวแล้ว ไม่เป็นไรหรอกน่า นี่ห้องเฮียเอง เฮียไม่ถือหรอก” แล้วจากนั้นก็จำได้ว่า เขาเริ่มคลุกเค้าทั้งมือไม้และใบหน้าทั่วร่างของแดงอีก กางเกงยีนส์เลื่อนรูดลงไปกองที่พื้นโดยแดงเองขยับขาช่วย ร่างเปลือยถูกเขาเฟ้นฟอนไปทั่วแทบไม่เว้น สองกลีบแคมถูกนิ้วมือเสียดสีและชำแรกจนแดงต้องกัดฟันคราง เผลอตัวจิกหลังเขาด้วยความเสียวในบางจังหวะ น้ำเมือกลื่นถูกขับชโลมจนชื้นเหนียวไปทั่วหน้าขา โดยไม่รู้ตัว ร่างถูกเขารุนถอยหลังไปจนพิงกับขอบด้านหน้าของโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของเขา เฮียแสงใช้มือข้างหนึ่งจับเอกสารกลางโต๊ะไปวางไว้ด้านหนึ่ง จนมันเป็นพื้นที่โล่ง แล้วแกก็จับร่างแดงยกขึ้นบนโต๊ะ ประคองให้เอนตัวนอน สองขาห้อยแหวกอ้าอวดกลีบแคม ตัวเขาแทรกเข้ามาอยู่กลางหว่างขาอวบนั้น มันช่างได้ระดับพอดีเหลือเกินค่ะ เฮียแสงรั้งต้นคอแดงให้เงยหน้าขึ้นรับจูบที่หนักหน่วงอีกครั้ง ซึ่งแดงก็จูบตอบแลกลิ้นกับเขาด้วยความเต็มใจแล้ว ก่อนที่จะเป็นฝ่ายใช้สองมือโอบรั้งต้นคอเขาไว้บ้าง ปล่อยให้เขาใช้มือลูบเคล้นหนักหน่วงไปตามลำตัว จนบางครั้งรู้สึกเจ็บ แต่ก็สร้างความรู้สึกที่ตื่นเต้น ผ่าวร้อนไปทุกอนูเนื้อ สักพักขณะที่กำลังเพลินกับรสจูบอยู่นั้น ก็สะดุ้งทั้งตัวเมื่อกลีบแคมถูกดุนดันด้วยท่อนเนื้อแกร่ง มันถูกห่อหุ้มไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ นับว่าแกเตรียมพร้อมดีจริงๆ มันค่อยๆชำแรกเข้ามาช้าๆ เหมือนกับเจ้าของต้องการที่จะรับรู้ทุกรสสัมผัส ในขณะที่แดงกลั้นหายใจด้วยความระทึกและหนึบแน่น อดกระซิบเบาๆไม่ได้ “เบาๆนะคะ แดงกลัว” “ของหนูแดงแน่นดีจัง” เขากลับพึมพำตอบกลับมาอีกอย่างหนึ่ง แม้ว่าท่อนเนื้อของเขาจะไม่ใหญ่เท่ากับโก้ และไม่แข็งแกร่งเท่า เพราะอายุมากแล้ว แต่ขนาดของมันก็เขื่อง จนแน่นตึงช่องทางไปหมดเหมือนกัน ประกอบกับช่องทางของแดงไม่ถูกสิ่งใดๆแผ้วพานมาเกือบ 4 เดือนแล้วด้วยค่ะ ดังนั้นกว่าที่มันจะสอดเข้ามาจนมิดลำ แดงก็ต้องผ่อนลมหายใจยาวอยู่หลายครั้ง แขนเขาเป็นรอยเล็บสองสามแห่ง เขาปล่อยมันสงบอยู่ภายในชั่วขณะ จะว่าสงบก็ไม่ถูกนักหรอกค่ะ เพราะมันมีการกระตุบเต้น แดงเองก็ขมิบรัดภายในของตนตอบโต้บ้าง จนเขาครางออกมาบ้างเหมือนกัน “อูย สุดยอดเลย เฮียจะทำแล้วนะ” จากนั้นแดงก็รู้สึกวาบเมื่อเขาถอนท่อนเนื้อออก แล้วดันเข้ามาใหม่ เป็นจังหวะที่รวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ สองขาที่ห้อยกับขอบโต๊ะ เหยียดส่ายเปะปะด้วยความเสียว ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นงอเข่าหนีบรั้งเอวหนาของเขาไว้ เมื่อเขาพักจังหวะโดยการบดคลึงหน้าขา เสียงครางของเราทั้งสองเริ่มดังและถี่ขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็รั้งร่างแดงขึ้นนั่ง สองมือจับเอวคอดนั้นโยกสวนรับการกระแทกเป็นจังหวะ หน้าตาของแดงตอนนั้นคงบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน ยิ่งเมื่อเห็นภาพกระจะตาแบบนั้น ชั่วไม่นานเขาก็ร้องออกมาเสียงดัง กระแทกและรั้งรัดร่างเราเข้าไป เพื่อให้ท่อนเนื้อฝังเข้าไปให้ลึกที่สุด มันกระตุกถี่เร็ว แดงเองเมื่อเห็นเขาถึงที่สุดแล้ว จึงรีบเบียดส่ายหน้าขาให้ท่อนเนื้อที่ยังคงแข็งตัวอยู่ดุนดันทุกซอกมุมภายใน ชั่วไม่นานร่างของเราทั้งสองก็นอนทาบทับกันอยู่บนโต๊ะตัวนั้น หอบครางอย่างเหนื่อยอ่อนแต่แสนสุข
จากคืนนั้นแดงก็มีสถานภาพเป็นเมียเก็บของเฮียแสงด้วยความเต็มใจ ความสัมพันธ์แบบลับๆของเราดำเนินมาประมาณสามเดือนเศษ ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมานี้เราหาโอกาสนอนด้วยกันอาทิตย์ละครั้งสองครั้งเสมอ ที่บ้านของเขาข้างหลังอู่บ้าง ที่โรงแรมบ้างตามแต่โอกาส แดงยอมรับค่ะว่ามีความสุขที่ได้ร่วมรักกับเขา เพราะเฮียแสงเป็นคนที่มีพลังและลีลาคนหนึ่ง แต่เวลาอยู่ที่ทำงานเราก็ปฏิบัติเหมือนเจ้านายลูกน้องทั่วๆไป แดงเองก็ไม่พร้อมที่จะอยู่กินกับเขาซึ่งแก่คราวพ่อของแดงอย่างออกหน้าออกตา จึงไม่ได้รบเร้าเขาในเรื่องนี้ ส่วนเฮียแสงเองก็ดูเหมือนจะพอใจที่จะรักษาระดับความสัมพันธ์ของเราไว้แบบนี้ เพราะขี้เกียจตอบคำถามกับวงศาคณาญาติของเขาถ้าจะแต่งกับแดง จะมีตอบแทนเป็นพิเศษบ้างก็คือ การเลื่อนเงินเดือน การให้ค่าจ้างล่วงเวลามากๆ จนพี่อรซึ่งทำหน้าที่คุมบัญชีอยู่ชักมองแดงด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนสงสัยอะไรบางอย่าง ทำให้แดงยิ่งต้องระมัดระวังไม่ให้ทำตัวสนิทสนมกับเฮียแสงมากไปนัก แต่ก็ลำบากค่ะ เพราะ รายนี้มือไวอย่างที่ว่า บางครั้งอยู่ต่อหน้าคนอื่นแกก็โอบเอวเราบ้าง หยิกแก้มเราบ้าง จนบางครั้งแดงต้องกระซิบปรามแกเมื่ออยู่กันสองต่อสอง ถ้าเป็นคนอื่นคงจะแสดงออกแล้วว่ามีอะไรกับผู้จัดการ แต่แดงไม่ต้องการแบบนั้นค่ะ อีกอย่างหนึ่งเกรงใจเฮียกวง ซึ่งแสนจะดีกับแดงมาตลอดด้วย อีกคนที่มองแดงด้วยสายตาแปลกๆ ก็คือพี่สามารถค่ะ ทวนความจำให้นะคะ นายช่างของบริษัทอายุราว 35 ปีในตอนนั้น ก็แก่กว่าแดงประมาณรอบหนึ่งละค่ะ ตัวผอมสูงดำกร้าน แต่ถ้าจะมองในแง่ของความใคร่แล้วหุ่นแกก็แบบที่เขาเรียกกันว่า สูงชะลูดตูดปอดยอดขุนพลน่ะค่ะ แววตาของแกเหมือนกับจะข่มขืนแดงอย่างไรอย่างนั้น แดงได้มาพิสูจน์ประโยคนี้ว่าไม่ใช่เรื่องเหลวไหลก็เมื่อคืนวันหนึ่ง ซึ่งพวกเราอยู่ทำงานจนเกือบสามทุ่ม เพื่อเตรียมรับการตรวจเยี่ยมของตัวแทนบริษัทแม่ ก็ยุ่งกันทุกคนล่ะค่ะ ทั้งฝ่ายจัดการ ฝ่ายช่าง และฝ่ายขาย จนกระทั่งเสร็จต่างก็ทยอยกันกลับ คงเหลือแต่ฝ่ายช่างบางคนที่กำลังเก็บกวาดทำความสะอาดที่อู่ด้านหลัง แม้จะทั้งยุ่งทั้งเหนื่อย แต่เฮียแสงกลับเกิดอารมณ์ขึ้นมา ตอนที่แดงกำลังเก็บเอกสารบนโต๊ะทำงานเพื่อเตรียมตัวกลับ จู่ๆเฮียแสงซึ่งตอนแรกนั่งทำงานของแกอยู่เงียบๆ เดินเข้ามาเมื่อไรไม่รู้ค่ะ กอดแดงแล้วก็จูบไซร้ที่ซอกคอเล่นเอาสะดุ้ง “อะไรเฮีย เกิดอะไรขึ้นมาล่ะ” “ไม่รู้สิ เห็นหนูใส่กระโปรงตัวนี้ทีไร เฮียอยากเอาหนูทุกที”ไม่พูดเปล่ามือยังเลื่อนมากุมเนินเนื้อหน้าท้องของเราด้วย กระโปรงตัวนี้ที่แกว่าก็เป็นผ้าฟอร์มของบริษัทน่ะค่ะ สีน้ำเงิน แต่ตัวนี้ต่างจากตัวอื่นตรงที่แดงให้เพื่อนมันออกแบบให้ มันก็ออกแบบเสียค่อนข้างสั้น แถมยังผ่าข้างขึ้นไปอีกเป็นคืบ เผยเนื้อสะโพกขาวๆล่อตะเข้ไม่น้อย ซึ่งรวมทั้งพี่สามารถด้วย วันนี้ตาแกแวววาวหาโอกาสจ้องขาอ่อนแดงเสมอ “ไม่เหนื่อยเหรอเฮีย” แดงหลับตาพริ้มปล่อยให้เขากอดจูบลูบไล้ แต่ปากก็ถามไปยังงั้น แก้เขิน “เหนื่อยอะไรกัน เฮียนั่งเฉยๆ แดงสิ เหนื่อยมั้ย” “ไม่หรอก ฮื้ออย่าซนสิ ไม่ใช่ที่นี่น่าเฮีย ไปข้างนอกเหอะค่ะ”แดงปรามเขาเมื่อเห็นท่าทางเขาจะสานต่อให้จบที่นี่โดยมือไม้เริ่มเลิกรั้งกระโปรงของแดงขึ้น สอดลอดเข้าไปเกาะกุมเนื้อแท้ๆ “ในนี้ได้อารมณ์ดีออก รู้ไหมเมื่อกี้ที่เฮียนั่งนึกถึงวันแรกที่เฮียได้หนูแดงที่ห้องนี่ตลอดเลย” “บ้านึกว่าทำงาน ที่แท้มัวแต่คิดเรื่องลามก” แดงหันมาทุบอกเขาๆเบาๆ แถมด้วยหยิกหมับเข้าไปที่ท่อนเนื้อที่ตุงเป้าของเขา เล่นเอาเขาเป็นฝ่ายสะดุ้งมั่ง รีบเอื้อมมือมากุมมือเราไว้ “ลามกอะไรล่ะ เห็นหนูครางทุกทีเวลาเฮียทำ” “บ้า บ้าที่สุด ตาเฮียนี่ ฮื้อ ดูสิมารูดซิบประโปรงเค้าอีก บอกว่าให้ไปที่อื่นก็ไม่ฟัง” “ไม่ทันแล้ว เฮียต้องการหนูที่นี่ นะนะ”เขาอ้อนงึมงำขึ้นมาจากซอกคอแดง กำลังเคลื่อนใบหน้าลงสู่เนินอก ซึ่งตอนนี้กระดุมสองเม็ดบนถูกปลดออกแล้ว สาบเสื้อเผยอออกให้เห็นเนื้อขาวๆเบียดกันอยู่ภายใน แดงปล่อยให้แกจูบไซร้โนมเนื้ออย่างกระหายอยู่พักใหญ่จนรู้สึกว่าตัวเองก็เครื่องร้อนแล้ว จึงกระซิบเขาเบาเหมือนจะเตือนสติเราทั้งสองคนเป็นครั้งสุดท้าย “พวกช่างยังไม่กลับนะเฮีย” “ฮื้อ พวกนั้นมันไม่ขึ้นมานี่หรอกน่ะ แดงหอมจังเลย ดูสิ หัวนมแข็งแล้ว” ค่ะ สายใยแห่งความเขินอายเส้นสุดท้ายขาดออกตอนนี้ เมื่อเฮียแกใช้นิ้วเกี่ยวรั้งบราฯจนยอดปลายของมันโผล่ออกมารับลิ้นที่ตวัดไล้ ลงหายใจอุ่นๆที่เป่ารดเนื้อเปลือย เล่นเอาแดงขนลุกเกรียว มือที่กุมเป้าแกอยู่ขยับคลึงช้าๆบ้าง ไม่แข็งขืนเมื่อแกรั้งให้นั่งซ้อนตักในลักษณะที่หันหน้าประจันกัน ประคองร่างแดงให้เอนแหงนหงายเพื่อที่จะซุกไซร้ใบหน้าของแกได้ถนัด “ถอดเสื้อออกเถอะจ้ะ เกะกะ”เขาหอมพลางพูดพลาง แต่แดงเพียงแค่แกะกระดุมปัดแหวกมันออก ก่อนที่จะเอื้อมมือปลดตะขอยกทรง ปล่อยให้เนื้อแท้ๆออกมาอวดความขาว สูดปากสะอื้นดังเมื่อเฮียแกอมหัวนมด้านหนึ่งเข้าไปทั้งป้านแล้วดูดเนิ่นนาน ก่อนที่จะขบเบาๆด้วยฟันในขณะที่ลิ้นเลียไล้ปลายยอด “อี๋ย์ เฮีย แดงขนลุกไปหมดแล้ว เร็วเถอะค่ะ” เฮียแสงเองก็คงมีอารมณ์เต็มที่จนไม่อาจรั้งรอต่อไปได้เช่นกัน เขาขยุกขยิกอยู่ครู่หนึ่งโดยไม่ละใบหน้าจากเต้าทั้งสอง แล้วกางเกงทั้งนอกทั้งในของเขาก็ร่วงลงไปกองที่พื้น มือของเขาลูบปราดขึ้นมาตามสะโพกของแดง เกี่ยวรั้งขอบกางเกงชั้นใน เมื่อแดงขยับตัวช่วย มันก็ถูกรูดตามลงไปพันอยู่ที่ข้อเท้าขวา เกมส์รักดำเนินไปอย่างรวดเร็วไม่ถึงห้านาทีเราทั้งคู่ก็ถึงจุดสุขสมชนิดเก้าอี้ของแดงแทบพัง ชั่วขณะที่แดงกำลังซบหน้าพักหอบหายใจกับไหล่ของแกนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เฮียแสงขยับร่างของแดงออก ดึงกางเกงขึ้นมาสวม แล้วเดินไปรับสายที่โต๊ะ ในขณะที่แดงเองหยิบกระดาษมาซับความชุ่มชื้นที่เปรอะเต็มหน้าขาของตน และบางส่วนเปื้อนเป็นดวงที่กระโปรง ความเหนื่อยล้าแต่เต็มไปด้วยความสุขทำให้แดงไม่รับรู้ว่าแกพูดอะไรกับใคร.... ไม่นาน มือใหญ่ของแกก็บีบเบาๆที่ไหล่ “หนูแดง เดี๋ยวมานะ เฮียโทรมาเรียก อย่าเพิ่งกลับล่ะ เดี๋ยวไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน” เฮียที่แกว่าก็คือเฮียกวงพี่ชายแกแหละค่ะ คงโทรมาจากบ้านที่อยู่หลังอู่ เดินแป๊บเดียวก็ถึง แดงเลยพยักหน้า แต่ก็อดแซวแกเล่นไม่ได้ “อะไร สมใจแล้วก็ทิ้งหนูเลยนะ ระวังเหอะ มีใครมาขโมยไปไม่รู้ด้วย” ตาของแกมีประกายอะไรบางอย่างขึ้นมาวูบหนึ่ง เหมือนขำๆ ตบหัวเราเบาๆพร้อมกับหัวเราะ ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ความเงียบเข้ามาปกคลุมอยู่พักใหญ่ในขณะที่แดงกำลังกลัดกระดุมเสื้ออยู่นั้น เสียงบานพับประตูกระจกก็ดังขึ้น แดงเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นพี่สามารถในชุดช่างสีน้ำเงินเดินเข้ามา ตาเป็นประกายของแกจับจ้องอยู่ที่มือของแดงซึ่กำลังกลัดกระดุมอกเสื้ออยู่ “ทำอะไรน่ะ เฮียแสงไปแล้วยังไม่กลับอีกหรือ” ตกใจกับการโผล่พรวดพราดเข้ามาของแกก็พอแรงอยู่แล้ว ยิ่งเห็นสายตาของแกขณะที่แกเดินเข้ามาหา ยิ่งทำให้แดงมือไม้สั่น ได้แต่จับชายเสื้อปิดเข้าหากัน ซึ่งกริยาแบบนั้นทำให้เขายิ้มแสยะ “เป็นไง มือสั่นเชียวเหรอแดง ทำอะไรกับเฮียเขาล่ะ”เสียงของเขาห้วนกระด้าง ตามแบบช่างทั่วๆไป แดงหลบสายตาเขา “เปล่า มันร้อนน่ะ พอดีเพิ่งเก็บของเสร็จ เดี๋ยวจะกลับแล้ว”พยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น แต่มันไม่เป็นใจ เพราะแม้กระทั่งหัวใจของแดงเองตอนนั้นก็เต้นตูมตามเหมือนคนที่ทำผิดร้ายแรงแล้วถูกจับได้ “อะไรร้อน แอร์เย็นจะตาย” แกเดินเข้ามายืนประจันหน้า มีเพียงโต๊ะที่ขวางอยู่ แดงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง แต่ก็พอจะเดาได้ว่าเขากำลังจ้องเขม็งอยู่ “พี่สามารถขึ้นมาทำไม”ตัดสินใจเป็นฝ่ายเปิดคำถามบ้าง “ก็สงสัยว่าคนสวยของพี่ทำอะไรอยู่”ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ ประโยคแบบนี้ธรรมดามากเพราะแกพูดเล่นกับแดงในลักษณะนี้บ่อยๆ แต่ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างมีอะไรแฝงเร้น ดังนั้น น้ำเสียงเขาจึงสั่นปร่าเหมือนกัน ส่วนแดงเองก็รู้สึกบาดหูขึ้นมา “อย่ามาพูดมากน่า ถอยไปแดงจะเก็บของ” “ก็เก็บสิ พี่ไม่ได้เกะกะซักหน่อย พี่ไปส่งบ้านเอามั้ย” “ไม่ต้อง รถแดงมีกลับเองได้”ขณะที่พูดก็ตัดสินใจกลัดกระดุมจนเสร็จเก็บของกระจุกกระจิกใส่ลิ้นชัก เอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าถือ แต่แล้วกลับถูกเขาคว้าข้อมือไว้ มือของเขาสั่นน้อยๆเหมือนกันค่ะ “พูดให้มันดีๆหน่อยสิ พี่รู้นะว่าเมื่อกี้เธอกับเฮียทำอะไรในห้องนี้ “ “ทำอะไร แดงทำอะไร พี่อย่ามามั่วนะ แดงโกรธจริงๆด้วย” แทนคำตอบพี่สามารถชี้มือไปด้านหลังของแดง ซึ่งเมื่อเหลียวกลับมองตามก็รู้สึกเย็นวูบเหมือนถูกน้ำแข็งราด กระจกแบบครึ่งบานที่แขวนอยู่บนผนังหลังเก้าอี้เฮียแสง สะท้อนภาพผนังอาคารบริเวณที่พักบันได แม้ว่าประตูห้องจะถูกฉาบไว้ด้วยฟิล์มบางๆ ก็ตาม แต่แสงไฟที่สว่างจ้าทั้งอาคาร ก็ทำให้มันเห็นได้กระทั่งรอยแตกของผนัง แน่นอนว่าเมื่อมันสะท้อนภาพมาได้มันก็สะท้อนภาพจุดที่แดงยืนให้คนที่หากเผอิญอยู่ตรงนั้นเห็นได้เหมือนกัน และจุดที่แดงยืนอยู่ตอนนี้ก็บริเวณเก้าอี้ของแดงล่ะค่ะ เงียบกันไปครู่หนึ่ง ก่อนที่แดงจะเป็นฝ่ายแข็งใจถาม “พี่เห็น” “ก็ไม่ทั้งหมดหรอก แต่ก็รู้ว่าทำอะไรกันละ แต่ตอนนี้...”เขาเว้นระยะ ล้วงมือเข้าไปในซอกข้างกระเป๋าของแดงที่เผยออ้าอยู่ ใช้ปลายนิ้วเอาทิชชูที่ชุ่มโชกขยุ้มนั้นขึ้นมา “ชัดเลยหละ” แดงตั้งใจจะเอามันไปทิ้งในชักโครกค่ะ เพราะไม่กล้าทิ้งในถังขยะ เดี๋ยวคนทำความสะอาดมาเจอเข้า ไม่นึกว่าเขาจะตาไว คราบเมือกขาวขุ่นยังเกาะติดอยู่บางส่วน ไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร สิ่งที่คิดไว้ตอนนั้นคือ รีบออกไปเล่าให้เฮียแสงฟัง ดังนั้น จึงกระชากมืออกจากการเกาะกุม คว้ากระเป๋าได้ก็จ้ำผ่านเขาไป แต่แล้วก็ต้องชะงัก “ออกไปสิ ถ้าอยากให้คนทั้งบริษัทรู้เรื่องนี้” “แล้วพี่ต้องการอะไร”คราวนี้แดงหันมาเผชิญหน้ากับเขา ระยะห่างกันแค่เอื้อม ท่าทางเขาเองก็ตื่นเต้นไม่น้อย สังเกตจากจังหวะการหายใจที่ถี่เร็ว ตาจ้องเขม็งมาที่โคนขาขาวที่พ้นชายกระโปรงออกมา จนแดงรู้สึกอึคดอัด จะขยับก็กลัวว่าจะไปยั่วยุอารมณ์เขามากขึ้นพี่ต้องการนอนกับเธอ”นานเหมือนอยู่ในนรกเชียวค่ะ กว่าที่เขาจะหลุดประโยคนี้ออกมา ดูเหมือนเขาเองก็ต้องรวบรวมความกล้าไม่ใช่น้อย จากนั้นความเงียบที่อึดอัดก็เข้ามาปกคลุมอีก แดงนั้นเงียบเพราะโกรธและนึกหาวิธีที่จะตอบโต้ พร้อมกับถ่วงเวลาให้เฮียแสงกลับมา ส่วนเขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบหนักๆ ยืนพิงขอบโต๊ะ แต่ท่าทางนั้นพร้อมที่จะเข้าตะครุบแดงทันทีหากผลุนผลันออกไป “ถ้าจะรอให้เฮียแสงกลับมาละก็ อย่ารอเลย”ในที่สุดเขาก็เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา แล้วก็พูดประโยคต่อไป “แค่ครั้งเดียวน่า อย่าคิดมาก” บอกตรงๆค่ะว่าตอนนั้นแดงโกรธมาก ด่าเขาออกไปหยาบๆ ซึ่งไม่อยากเขียนไว้ในที่นี้ เอาเป็นว่าหยาบมากก็แล้วกันค่ะ จนกระทั่งเขาคงโกรธขึ้นมาโดดเข้ามาใช้มือบีบปากแดง “ปากดีนักนะ ถ้าไม่รักละก็ป่านนี้ตบดิ้นไปแล้ว เมื่อไม่ยอมดีๆกูก็จะปล้ำละด้วยเรี่ยวแรงที่มากกว่า เขาดันร่างแดงไปพิงกับตู้เก็บเอกสารแนบผนังที่สูงเลยเอวเล็กน้อย มือหนึ่งอุดปากแดงที่ทั้งร้องทั้งด่า อีกมือหนึ่งเอื้อมไปดึงคัทเอาท์ลงเป็นผลให้ไฟทั้งโชว์รูมรวมทั้งชั้นลอยด้วยดับสนิท ก่อนที่จะใช้มือแต่ละข้างรวบแขนของแดงกดลงกับตู้ ทาบกายบดอัดเข้ามาเป็นการตรึงไม่ให้แดงดิ้นหนีไปได้ ความมืดมิดที่จู่โจมอย่างกระทันหัน ทำให้แดงหยุดดิ้นรนชั่วขณะ แล้วหันมาใช้ความนุ่มนวล “พี่สามารถปล่อยแดงเหอะนะ แดงนับถือพี่ อย่าทำกับแดงแบบนี้สิ” เขาเงียบ มีเพียงประกายตาและเสียงหอบหายใจเท่านั้น “เดี๋ยวเฮียแสงกลับมาพี่ก็เดือดร้อนหรอก” เหมือนไปจี้จุดของเขาจนต้องระเบิดอารมณ์ออกมา “ไม่ต้องเอาเฮียแสงมาขู่กูหรอก กูกับเขาคบกันมาสร้างตัวมาด้วยกัน เที่ยวมาด้วยกัน เอาผู้หญิงคนเดียวกันก็เคย กะมึงแค่นี้เฮียเค้าไม่หวงหรอก” แดงอึ้งเลยค่ะ ไม่ว่าที่เขาพูดจะจริงหรือไม่ก็ตาม แต่เมื่อเอาชื่อเฮียเขามาขู่ไม่ได้ผล ความหวังเดียวที่เหลืออยู่ก็คือถ่วงเวลาให้นานที่สุด เพื่อรอเฮียแสงกลับมา“พี่สามารถต้องการแค่นอนกับแดงเหรอเท่านั้นเหรอ” แดงเบี่ยงแก้มหลบการจูบหอมของเขา แม้สายตาจะเริ่มชินกับความมืดบ้างแล้ว แต่บนชั้นลอยแห่งนี้ แทบไม่มีช่องทางที่แสงจากภายนอกจะส่องเข้ามาได้เลยจึงมืดสนิท พี่สามารถใช้ข้อได้เปรียบอันนี้ละค่ะ ถัดจากแก้มก็เป็นที่ริมฝีปาก ไรหนวดสั้นๆของเขาเสียดแทงจนจั๊กจี้ แดงได้แต่เป็นฝ่ายเบี่ยงหลบ “ความจริงพี่รักแดงตั้งแต่แรกเห็นแล้วนะ อยากได้เป็นเมีย แต่เฮียเขาตัดหน้าไปซะก่อน วันนี้มันสุดทนแล้ว”คำพูดของเขาสุภาพขึ้น “แต่ถ้าแดงหรือเฮียเปลี่ยนใจ พี่ก็พร้อมนะที่จะแต่งงานกับเธออย่างออกหน้าออกตา” “ถ้ารักแดงก็อย่าทำอย่างนี้สิ แดงหายใจไม่ออก” “ขอโทษก็แล้วกัน แต่พี่ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว” ในความมืด เขาบดใบหน้ามาที่อกของแดง ขยี้ส่ายไปมา แดงพยายามจะบิดกายหลบ แต่กลับกลายเป็นเหมือนแอ่นหน้าขาขึ้นรับการบดทับของเขา หน้าท้องถูกทิ่มไถด้วยเป้าตุง “บอกให้ปล่อย แดงไม่ต้องการ คนรักกันเค้าไม่ทำอย่างนี้หรอก”ถึงตอนนี้แดงร้องไห้ออกมาแล้วค่ะ ด้วยความเจ็บใจน้อยใจ แค้นใจด้วย เพราะพี่สามารถเป็นเหมือนพี่ชายที่แดงให้ความนับถือสนิทสนมมาตลอด แต่เขาคงหน้ามือไปแล้ว มือข้างหนึ่งวกเข้ามาดึงชายเสื้อออกจากขอบกระโปรง แดงอาศัยจังหวะนี้ ใช้มือข้างที่หลุดจากการจับยึด จิกผมของเขาให้เงยขึ้น แล้วอ้าปากกัดไปบริเวณต้นแขนอีกข้างหนึ่งที่ยังจับยึดแขนแดงอยู่ ก่อนที่ตัวเองจะถูกจับกระชากผมบ้างจนหน้าหงาย มือของเขาความคลำเปะปะมาที่คอของแดง ออกแรงบีบเบาๆ ในขณะที่แดงใช้มือทั้งสองยันอกไว้ “อย่าดิ้นมากน่า เจ็บตัวเปล่าๆ เดี๋ยวบีบคอตายเลยมึง!!!”เขาคำรามเพิ่มแรงเค้นที่มือเป็นเชิงขู่ก่อนที่จะคลายออกแล้วมือเขาก็วกขึ้นมาเกี ่ยวรั้งขอบด้านบน ขยับจะรูดลงแต่ติดที่แดงซึ่งกดหน้าขาตัวเองกับขอบตู้ไว้แน่นไม่ให้เขาถอดได้ ในที่สุดก็มีเสียงปึ้ดเบาๆในความมืด กางเกงตัวบางถูกกระชากจนขาดติดมือเขา แล้วด้วยความหื่นกระหาย สามารถขยับขาเบียดเข้ากลางลำขาของแดง เจ็บจนต้องแยกขาออก ซึ่งเท่ากับเปิดช่องให้เขาแบะเขาออก เพื่อถ่างขาแดงให้แยกค้างคาไว้เช่นนั้น รู้สึกผิวก้นเนียนถูกมือที่สากหยาบนั้นทั้งลูบไล้ ทั้งเคล้นขยำ มือของเขาสั่นน้อยๆด้วยความเกร็งและตื่นเต้นในอารมณ์ ในท่าที่จำกัดและสภาพที่อ่อนแรงเช่นนี้แดงได้แต่ดิ้นรนเบาๆตามสภาพ อ่อนใจเกินกว่าที่จะอ้าปากด่าต่อ ได้แต่เพียงสะอื้นไห้ มีเสียงรูดซิบและเสียงผ้ารูดไปกองกับพื้น จากนั้นเนื้อเปล่าที่ลำขาจนถึงบั้นท้ายก็สัมผัสกับแข้งขาที่กระด้างและการเสียดสีของเส้นขนหยาบรุงรัง ที่ร้ายที่สุดคือท่อนเนื้อแข็งๆที่ถูไถป้วนเปี้ยนอยู่เบื้องหลัง มันทิ่มแทงไปตามร่องก้น เสียดส่ายไปมาด้วยความพยายามของเจ้าของที่จะหาช่อองทางเข้าให้ได้ ความรู้สึกที่สัมผัสได้ก็คือ ขนาดของมันยาวไม่น้อย และน่าแปลกที่มันแข็งเขม็งเหมือนท่อนไม้ เหมือนของเด็กหนุ่มๆ ทั้งๆที่อายุของพี่สามารถก็ปาเข้าไป 35 เศษแล้วในตอนนั้น ในช่วงเวลาติดๆกันนั้น เสื้อที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อของแดงก็ถูกถลกขึ้นมาพันคาอยู่ที่ซอกรักแร้ บราเซียร์ถูกแกะตะขอแล้วกระชากออกไป แผ่นหลังร้อนผ่าวด้วยลมหายใจแรงที่ราดรดถี่เร็ว ก่อนที่จะถูกไล้ด้วยปลายลิ้น และจมูกที่กดเบียดเข้ามาเหมือนกับต้องการจะมุดใบหน้าเข้าไปในร่างแดง แขนที่รัดรั้งรอบอกแดงอยู่เพิ่มแรงเบียดรัดอย่างลืมตัวจนแดงต้องร้องออกมาด้วยความอึดอัดแทบหายใจไม่ออกนั่นแหละค่ะ เขาถึงได้คลายวงรัดลง แดงดิ้นรนสุดฤทธิ์อีกครั้ง เมื่อเขาจับท่อนทวนของเขาจ่อจรดกลีบแคมที่อูมย้อยมาทางด้ายหลัง มันทิ่มไถลปากทางสองสามครั้ง ซึ่งเหมือนกับไปสะกิดให้น้ำรักที่ยังค้างคาอยู่ของเฮียแสงเยิ้มย้อยออกมา พยายามบีบช่องทางตัวเองเข้าไว้ “อย่าทำเลยพี่ แดงขอร้องนะ ถ้าไม่เห็นแก่แดงก็เห็นแก่เฮียแสงเหอะ” เขาหยุดการรุกรานไปครู่หนึ่ง แล้วเลื่อนกายขึ้นมาก้มลงกระซิบข้างหู “จะบอกความลับให้นะ เฮียน่ะแหละที่เป็นคนบอกให้พี่ขึ้นมา!!” แดงจำได้ว่าร้องออกมาเบาๆว่าไม่จริง แล้วก็ร้องไห้โฮ หมดกำลังใจที่จะดิ้นรนขัดขืนอีก มันจะนานเท่าไรไม่รู้ ที่เขาเคลื่อนไหวอยู่ด้านหลังของแดง มารู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อเขาคลายมือที่โอบรัดออก แดงก็ซบหน้าร้องไห้บนหลังตู้ ปล่อยให้เขาใช้มือข้างนั้นลูบไล้ที่สีข้าง ในขณะที่เบื้องล่างก็รู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่เบียดชำแรกกลีบแคมของตนเข้ามา ในใจคิดอย่างเดียวว่าให้นรกคราวนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว สะโพกของแดงถูกกระทั้นกระแทก จนกระเทือนไปทั้งร่าง กัดฟันด้วยความเจ็บแน่น เมื่ออวัยวะของผู้ชายเบียดสอดเข้ามาทิ่มแทงเสียดสีภายในร่องหลืบอย่างรวดเร็ว เท่านั้นยังไม่พอ ก้นเปลือยยังถูกมือแข็งแรงราวกับทำด้วยเหล็กของเขาเคล้นขยำเหมือนกับจะใช้เป็นเครื่องเร่งเร้าอารมณ์ของตน ถัดจากนั้นขาข้างหนึ่งก็ถูกยกรั้งขึ้นพาดวางด้านบน พร้อมกับร่างกายส่วนบนทั้งหมดถูกดันขึ้นไปนอนทาบอยู่บนหลังตู้ กึ่งตะแคงเอียงเปิดช่องทางให้เขาบดเบียดชำแรกแก่นกายเข้ามาได้ลึกยิ่งขึ้นจนสุดลำอันยาวใหญ่ของมัน มีเพียงปลายเท้าขวาเท่านั้นที่เหยียดเขย่งแตะพื้น มือซ้ายของเขาสอดเข้ามารั้งหน้าอกแดงให้ยกเผยอขึ้น เพื่อที่มันจะได้เคล้นคลึงเนินนมทั้งสองข้างอย่างมันในอารมณ์ ในขณะที่มือขวาลูบเคล้นไปทั่วช่วงเอว บั้นท้ายอวบและเนื้อเนียนสะโพก จิกเกร็งเป็นจังหะในยามที่เขาเสียวขึ้นมา แต่แรกนั้นแดงคิดว่าสิ่งเลวร้ายคงผ่านไปโดยเร็ว เหมือนกับผู้ชายทั่วๆไปที่ไม่อาจเก็บรั้งหยาดความสุขไว้ได้ในยามที่มีอารมณ์ต้องการมากๆ แต่กลับเป็นว่าแดงคิดผิด แม้ว่ารูปร่างของเขาจะดูผอมเกร็ง แต่ทั้งเรี่ยวแรง ทั้งความอดทนมีมหาศาลอย่างไม่น่าเชื่อ หากไม่มีน้ำรักและการเบิกช่องทางก่อนหน้าของเฮียแสง มันคงสร้างความเจ็บแสบจนถึงปริแยกเป็นแน่ค่ะ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในความมืด ความเงียบสงัดทำให้เสียงหายใจหอบถี่ของเขาดั่งราวกับขยายด้วยลำโพงหลายร้อยวัตต์ เหงื่อจับพราวไปด้วยกันทั้งคู่ และบางส่วนของเขาไหลย้อยหยดลงบนแผ่นหลังของแดงจนรู้สึกได้ ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่เขากระทำกับเรือนร่างแดง จำได้แต่ว่าระหว่างนั้นแดงนึกถึงภาพความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแดง เฮียแสงแล้วก็พี่สามารถ นึกไปก็เจ็บใจไป สะอื้นไป จนรู้สึกว่าเขาผ่อนคลายการกระแทกกระทั้นลง เปลี่ยนมาเป็นบดเบียดแก่นกายของเขาฝังลึกค้างคาอยู่ภายในจนมิดโคน มือที่เคล้นขยำที่อกและร่างกายอีกข้างเริ่มเปลี่ยนมาเป็นลูบไล้แผ่วๆ เหมือนต้องการจะสร้างอารมณ์ให้แดง “พี่ขอโทษนะ ถ้าทำให้แดงเจ็บ พี่ลืมตัวไป” “ขอโทษแล้วมันมีประโยชน์อะไร เสียแรงที่แดงนับถือพี่มาตลอด” พูดไปก็ร้องไห้ไป ปัดมือเขาที่เอื้อมมาลูบไล้เรือนผม พยายามบิดสะโพกเพื่อให้ท่อนเนื้อนั้นหลุดออกมา สามารถรีบเอื้อมมือมาจับขาซ้ายของแดงกดแน่นกับพื้นหลังตู้ เข่าขวากดทับสะโพกเพื่อไม่ให้แดงเคลื่อนไหว “ทำใจแล้วมีความสุขด้วยกันเถอะน่า” “ฝันไปเหอะ จะทำอะไรก็ทำ นึกว่าให้หมามัน” มือขวาของเขาเอื้อมมาบีบปากแดง แก่นกายเบื้องล่างถูกชักออกมาก่อนที่จะกระแทกเข้าไปเหมือนต้องการสั่งสอน แดงร้องครางออกมาด้วยความเจ็บแน่นภายในเมื่อมันครูดชนผนังหยาบหยุ่นกระแทกเข้ากับกล้ามเนื้อหนาของปากโพรง มดลูก “อย่าด่าอีกนะ พี่ไม่ชอบ” เขาขยับท่าทางอีกครั้ง ถอนแก่นกายออกจับแดงพลิกร่างหงายขึ้น แก้มก้นของแดงพาดอยู่กับขอบตู้ ปลายเท้าสองข้างห้อยละพื้น โดยมีร่างเขาแทรกอยู่หว่างกลาง ตาของเขาเป็นประกายวาวในความมืด จนแดงต้องหลับตา เบือนหน้าหนี โดยที่เขาพยายามจะประกบจูบปาก เมื่อเห็นว่าไม่เป็นผลก็เปลี่ยนเป็นจูบไซร้ซอกคอและเนินอก นิ้วมือนิ้วใดนิ้วหนึ่งขยี้คลึงที่ปากแคม เมื่อเห็นว่าแดงไม่มีอาการตอบสนองใดๆ เขาก็อุทานคำด่าออกมาเบาๆ แล้วใช้มือจับปลายหัวที่แข็งเขม็งนั้น มาบดคลึงที่เม็ดมณีของแดง พยายามถูไถให้มันสัมผัสกับติ่งเนื้อที่ไวต่อความรู้สึกนั้น มีบางจังหวะเหมือนกันที่แดงเสียววูบจนเผลอกระตุกหนีบเกร็งขา แต่แล้วมันก็กลายเป็นความรู้สึกชาๆจนเปลี่ยนมาเป็นความแสบ... “ชั้นเจ็บไปหมดแล้ว ทำๆให้สมอยากเหอะ” เมื่อทนไม่ไหวเข้า แดงก็ต้องเอ่ยปากขึ้นบ้าง แล้วก็ตามมาด้วยความแสบแน่นอีกครั้งเมื่อเขาสอดเจ้านั่นเข้ามาในร่างกายอีกครั้ง คราวนี้ดูเหมือนเขามุ่งหน้าที่จะทำให้เสร็จ โดยฝังกายแล้วโยกสะโพกรัวเร็ว สองมือบีบรั้งไหล่แดงเป็นที่ยึดจนเจ็บไปหมด ก่อนที่จะกระแทกกระทั้นอีกครั้ง แล้วซบหน้าลงหอบหายใจบนร่างแดง ความแสบลามไปทั่วช่องทางภายในจนแดงต้องร้องออกมาเบาๆ รีบผลักร่างเขาให้พ้นอย่างขยะแขยง ควานคลำไปในความมืดเพื่อค้นหาเสื้อผ้าของตนเอง ความรังเกียจโกรธแค้นทำให้ลืมแม้กระทั่งสับคัทเอาท์ขึ้นเปิดไฟ มีเสียงและเงาของเขาเคลื่อนไหวตะคุ่มๆอยู่ในความมืด แล้วไฟฟ้าก็สว่างพรึบขึ้นจนแสบตา แดงมองหากระโปรงของตัวแล้วรีบถลาไปคว้ามันขึ้นมาสวมอย่างลวก ไม่กล้าหันไปมองทางเขา จนกระทั่งเขายื่นบราเซียร์มาให้ แดงกระชากมาสวมอย่างรวดเร็ว ปัญหาก็คือกระดุมเสื้อซึ่งมันขาดลุ่ยเกือบทุกเม็ด ต้องอาศัยเข็มกลัดที่มีสำรองอยู่สองสามตัวแก้ปัญหาไปพลาง กางเกงในไม่ต้องพูดถึงมันขาดจนต้องยัดใส่กระเป๋าถือ ตลอดเวลาเหล่านี้ มีแต่ความเงียบ เขาเองเมื่ออารมณ์กระสันต์ผ่านไปแล้วก็คงเสียใจเหมือนกัน ได้แต่ยืนสูบบุหรี่ ส่งสายตาที่เสียใจมองมาที่แดง แต่ตอนนั้นแดงโกรธมากค่ะทั้งพี่สามารถและเฮียแสง ตั้งใจที่จะลาออก พอใส่เสื้อผ้าเสร็จ คว้ากระเป๋าได้ ก็ชะงักเมื่อเขาเอ่ยปากขึ้น “แดงจะด่าพี่อย่างไรก็ได้ แต่อย่าบอกเฮียแสงนะ เขาไม่รู้เรื่องด้วยหรอก” ได้แต่กัดริมฝีปากข่มใจไม่ให้โต้ตอบ ผลักประตูก้าวออกไปด้วยความสับสนว่าอะไรคือความจริง ค่ะ สำหรับตอนนี้ถ้ายังไม่ถึงอารมณ์ก็ต้องขอโทษนะคะ เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ เป็นครั้งแรกของแดงที่ร่วมกับผู้ชายแล้วเกิดความรู้สึกเจ็บปวด ไม่สุขสม เจ็บแค้น จนกระทั่งมีเหตุการณ์ระหว่างแดงกับพี่สามารถอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้เขาสามารถสร้างความประทับใจให้กับแดงได้ค่ะ
คืนนั้นแดงนอนไม่หลับ คิดวุ่นวายสับสนอยู่ว่าอะไรคือจริงหรือเท็จ ถ้าหากเฮียแสงรู้เห็นเป็นใจด้วย
มันก็น่าจะมีวิธีการที่ดีกว่านี้ เหมือนกับสมัยที่หนึ่งพาแดงไปโดนรุม เพราะวิธีนี้ค่อนข้างเสี่ยงเอามากๆ
ประกอบกับที่ผ่านมาเฮียเขาก็แสดงท่าทีรักใคร่หลงใหลมาตลอด ไม่มีร่องรอยที่แสดงให้เห็นว่าเขาเบื่อแดง
ถ้าเฮียแสงไม่รู้เรื่อง คำถามต่อมาก็คือ แล้วแดงควรจะบอกเขามั้ย
นึกถึงคำพูดของพี่สามารถที่ว่าเขากับเฮียแสงเป็นเพื่อนกัน ก่อร่างสร้างตัวมาด้วยกัน
แดงก็คิดว่าจะเก็บเรื่องเงียบไว้ก่อน เพราะไม่อยากให้เกิดการหักหาญน้ำใจกัน
จนเป็นเรื่องราวอื้อฉาวขึ้นมา หรือที่เลวร้ายไปกว่านั้นเกิดบอกไปแล้ว
เฮียแสงเกิดหัวเราะแล้วบอกว่าช่างมันล่ะ เหมือนกับที่พี่สามารถแกบอกว่า
แม้กระทั่งผู้หญิงคนเดียวกันก็เคยนอนมาแล้ว แดงคงรับไม่ได้แน่นอน
ในอีกทางหนึ่ง หากคำพูดของพี่สามารถเป็นจริง มันก็น่าแค้นใจนัก แต่จะให้แดงลาออก
แดงก็ยังไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรต่อ
ความหวังที่จะได้บรรจุเป็นพนักงานขายก็ใกล้เข้ามาเพราะใกล้สิ้นปีที่พี่อรอนงค์จะย้ายไปเต็มที
ดังนั้น แดงจึงตัดสินใจที่จะดูท่าทีของคนทั้งสองไปก่อน
วันรุ่งขึ้นแดงหยุดงานเพราะร้าวระบมทั้งร่างกายและจิตใจ เฮียแสงโทรมาถามว่าเป็นอะไร
แดงก็บอกไปว่าไม่สบาย เขาก็ขอโทษที่วันนั้นไม่ได้กลับขึ้นไป
เพราะเฮียกวงชวนคุยเรื่องการรอรับการตรวจงานในวันรุ่งขึ้นเสียนาน
พอจะกลับมาก็เห็นไฟที่อาคารดับมืดหมดก็คิดว่าแดงคงไม่รอแล้ว
ระหว่างนั้นแดงร้องไห้เบาๆ เพราะนึกน้อยใจ เฮียแสงคงจะสังเกตเห็นว่าเสียวของแดงเครือก็เลยตั้งคำถาม
“มีอะไรเหรอ แดงร้องไห้รึเปล่า”
ชั่ววินาทีนั้น แดงตัดสินใจที่จะไม่เล่าเรื่องนี้ให้แกฟัง ไม่ว่าสองคนนี้จะสมคบคิดกันหรือไม่
การสังเกตเอาเองน่าจะทำให้ได้ความจริงมากกว่า จึงปฏิเสธไปว่าตัวเองเป็นหวัดคัดจมูก
ซึ่งเขาก็ไม่ได้ติดใจอะไรต่อ
ค่ะ แดงหยุดงานไปอาทิตย์หนึ่งเต็มๆ จนถึงวันจันทร์ก็ตัดสินใจเข้าบริษัท
ช่วงที่หยุดไปนั้นเฮียแสงโทรมาเกือบทุกวัน การพูดคุยของแกเป็นปกติ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความห่วงใย
ทำให้แดงเชื่อว่าแกคงไม่รู้เรื่องอะไรด้วย
ทันทีที่แดงโผล่เข้าในห้อง เฮียแสงเดินมาหากอดแดง แดงปล่อยให้เขากอดแป๊บหนึ่งแล้วก็เบี่ยงตัวออก
อดเหลือบตาไปดูกระจกบานนั้นไม่ได้
“มาให้เฮียหอมหน่อยน่า คิดถึงเมียจัง”
“ไม่ค่ะ คนอยู่เต็มทั้งบริษัท อีกอย่างแดงยังมึนๆอยู่เลย เดี๋ยวจะเอาหวัดมาติดเฮียเปล่าๆ”
แล้วแดงก็นั่งทำงานไปเงียบๆ สักพักหนึ่งเฮียแสงก็ออกไปติดต่องานข้างนอก ก่อนออกไป แกบอกแดงว่า
“วันนี้ไม่ต้องทำมากนักก็ได้ พักผ่อนเหอะ เดี๋ยวค่ำนี้เฮียกวงแกจะเลี้ยงพนักงาน
บริษัทเราจะได้รางวัลตัวแทนจำหน่ายดีเด่นประจำภูมิภาคในปีนี้” แล้วแกก็ออกไป
ปล่อยให้แดงนั่งกลุ้มใจว่าจะปฏิเสธไม่ไปอย่างไรดี เพราะถ้าไปก็หมายความว่าจะต้องเจอหน้าพี่สามารถ
ความจริงก่อนออกจากบ้านก็ทำใจมาแล้วนะคะว่าถ้าต้องเจอเขาก็จะทำเป็นเฉยๆ
หากจำเป็นต้องพูดด้วยในเรื่องงานก็จะพูด ตั้งใจว่าจะพยายามลืมเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
ให้เหมือนกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น
แต่พอมาอยู่ในที่เกิดเหตุ มันก็อดนึกถึงภาพในคืนนั้นไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้ากระจกตัวต้นเหตุ
ตู้เก็บเอกสารที่แดงโดนเขาปู้ยี่ปู้ยำเอา นึกไปก็น้อยใจไปแค้นใจไป บอกตรงๆค่ะว่าไม่เป็นอันทำงาน
เหลือบดูนาฬิกาเห็นว่าเที่ยงกว่าแล้ว ตัดสินใจเก็บของบนโต๊ะเตรียมตัวจะกลับ
คนที่เป็นต้นเหตุก็โผล่พรวดเข้ามา
“ดีใจจังที่แดงมา พี่ขอโทษจริงๆที่เกิดเรื่องวันนั้น” เวลาพูดไม่คล่องอย่างนี้หรอกค่ะ
เสียงของสามารถสั่น แหบเครือ มีกระแสของความเสียใจอยู่ด้วย
มือสากของเขาที่คว้าข้อมือแดงก็สั่นน้อยๆเช่นกัน
แดงจ้องหน้าเขาเงียบๆ ไม่พูดอะไร จนพี่เขาเป็นฝ่ายหลบตา ยอมปล่อยมือที่เกาะกุมเมื่อแดงบิดข้อมือเบาๆ
เดินมุ่งไปที่ประตู
ก็ทำเก่งไปอย่างนั้นแหละค่ะ ที่จริงใจเต้นโครมๆแทบทะลุออกมานอกอก กำลังจะพ้นประตูอยู่แล้ว
เสียงแหบพร่าก็ดังแว่วมาอีก
“ขอร้องละแดง พี่ขอคุยด้วยหน่อยนึง”
แดงชะงัก ไม่ใช่เพราะเห็นใจเขานะคะ
แต่มันคงไม่ดีแน่ถ้าจะลงไปโชว์รูมโดยมีพี่สามารถเดินคร่ำครวญตามหลังไปแบบนี้
จึงหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา
“ความจริงแดงไม่ต้องการพูดกับพี่ ไม่ต้องการเห็นหน้าพี่ด้วยซ้ำ แต่เพื่อตัดความรำคาญ
พี่จะพูดอะไรก็พูดมา” ก็ไม่นึกว่าตัวเองจะเข้มแข็งได้ขนาดนั้น
แม้จะจำได้ว่าตอนนั้นเสียงตัวเองก็สั่นนิดๆเหมือนกัน
เพื่อไม่ให้คนอื่นที่อาจจะยังอยู่ได้ยินการสนทนาของเรา แดงกลับไปที่โต๊ะ
บังคับตัวเองให้นั่งลงด้วยอาการสงบนิ่งที่สุด เหมือนส่งสัญญาณให้เขารู้ว่า
ฉันพร้อมเสมอที่จะเผชิญหน้ากับนาย ไม่ว่าจะมาไม้ไหนก็ตาม พี่สามารถยืนเท้าโต๊ะ พูดพึมพำโดยไม่สบตาแดง
“พี่อยากจะบอกว่าพี่เสียใจ และพร้อมที่จะรับผิดชอบตามแต่แดงจะเรียกร้อง”
แดงยังคงมองหน้าเขาเงียบๆ พี่สามารถควักบุหรี่ออกมาสูบ
แล้วเดินไปคว้าเก้าอี้หน้าโต๊ะเฮียแสงมานั่งตรงข้ามกับแดง แต่ยังคงหลบตา
“พี่รักแดงจริงๆนะ ตั้งแต่วันแรกที่เห็นแล้วละ พี่เองยังโสดไม่มีเมีย
ญาติก็ไม่วุ่นวายเหมือนเฮียแสงด้วย”
เขาพูดต่อเมื่อเห็นแดงเงียบ
“บอกตรงๆว่าพี่หึง เมื่อเห็นแดงสนิทสนมกับเฮียแสง ยิ่งมารู้ว่าแดงยอมเป็นเมียเฮียเค้าพี่ยิ่งแทบจะบ้า
โดยเฉพาะวันนั้นพี่ขึ้นมาเห็นภาพจะจะตาก็เลยทนต่อไปไม่ไหว”
เขาเงยหน้าขึ้นสบตา ด้วยแววขอความเห็นใจ คงจะรอคำตอบจากแดงมั้งคะ ถึงเวลาที่จะต้องเป็นฝ่ายพูดบ้างแล้ว
“ความจริงแดงตั้งใจจะลืม ไม่นึกถึงเหตุการณ์วันนั้นแล้วนะ ถ้าพี่เสียใจมาก
ก็ขอให้รู้ว่าแดงนั้นเสียใจมากที่สุด เพราะเหมือนกับเสียพี่ชายที่เคยเคารพรักไปคนหนึ่ง
สิ่งที่พี่บอกว่ารักแดงน่ะ มันไม่ใช่หรอก มันเป็นแค่ความอยากต่างหาก ซึ่งพี่ก็สนองมันไปแล้ว
คนที่รักกันเขาไม่ทำกันแบบนั้นหรอก กระทั่งเฮียแสงเองยังไม่เคยทำแดงเจ็บสักครั้ง
พี่ไม่ต้องเอาเรื่องการรับผิดชอบ การแต่งงานอะไรมาพูดกับแดงหรอก แดงจะรักใครชอบใครไม่ได้อยู่ที่ฐานะ
กับเฮียแสงก็เหมือนกัน แดงไม่เคยไปป่าวประกาศหรือแสดงตัวว่าเป็นเมียแก
มีแต่พี่เองที่แส่เข้ามาในเรื่องชาวบ้าน เอาเถอะที่ผ่านมาก็นึกว่าเป็นทานตอบแทนที่พี่เคยช่วยเหลือแดงมา
แต่หวังว่าพี่คงจะปิดปากเงียบ แล้วก็ไม่ต้องมาเซ้าซี้อะไรแดงอีก”
ขอโทษนะคะที่ต้องเขียนถึงการพูดจาของเราสองคนในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงที่สำคัญครั้งหนึ่ง
เอาเป็นว่าเหตุการผ่านไปสองเดือนเศษจนเดือนพฤศจิกายน แดงก็ได้รับข่าวดีว่าพี่อรจะได้ย้ายกลับไปสาขาที่
โคราชบ้านเกิดแน่นอน และแดงน่าจะได้บรรจุเป็นพนักงานขายประจำโชว์รูมแทน
เฮียแสงบอกข่าวนี้ขณะที่เรากำลังคลอเคลียกันอยู่ในโมเต็ลแห่งหนึ่งซึ่งอยู่จังหวัดติดๆกัน
แต่สิ่งที่ทำให้แดงอึดอัดก็คือ
“อาจมีการทดสอบโดยการสัมภาษณ์ แล้วก็สาธิตการขาย แดงคงต้องปรึกษากับอรอนงค์ วิบูลย์
ในเรื่องเทคนิคการขาย แล้วก็สามารถ ให้มันสอนขับรถให้ เรื่องพื้นฐานเครื่องยนต์
โดยเฉพาะเกี่ยวกับการบำรุงรักษา เครื่องอะไรอยู่ตรงไหนนี่ต้องจำให้ได้เป็นพื้นฐานไว้
ไม่ใช่ว่าลูกค้าถามแล้วงง ไม่รู้อะไรอยู่ตรงไหน มันไม่น่าเชื่อถือ”
แดงซึ่งตอนนั้นนอนหนุนแผ่นอกแกอยู่เงยหน้าขึ้นแย้ง
“ทำไมต้องให้พี่สามารถสอนด้วย พี่บูลย์กับพี่อรก็น่าจะพอ”
“บูลย์เค้าไม่ค่อยอยู่บริษัท ส่วนยายอรนั่นตั้งแต่รู้ว่าจะได้ย้าย
ก็จิตใจไม่อยู่กะเนื้อกะตัวแล้วเรื่องพวกนี้ก็ไม่ค่อยชำนาญเท่าไร ไอ้มาดชัวร์กว่าเยอะ เอ๊ะ
ทำไมมีอะไรหรือเปล่า”แกจ้องตาแดง จนเราต้องหลบตาอ้อมแอ้มตอบ
“เปล่าหรอกค่ะเฮีย แต่แดงเห็นพี่เค้ายุ่งๆ กลัวไม่มีเวลาให้”
เฮียหัวเราะเอามือตบหัวเราเบาๆ
“เฮียสั่งไอ้มาดต้องมีเวลาแน่ แต่ไม่ต้องสั่งหรอก เพราะมันอยากสอนหนูจนตัวสั่น”
แกพูดเรื่อยๆสบายๆแต่เล่นเอาเราใจหายวาบ เพราะตลอดสองเดือนที่ผ่านมา
แดงไม่เคยปริปากเรื่องนี้กับเฮียเขาเลย ความจริงตอนที่เฮียเค้าจะนอนแดงครั้งแรกหลังจากเกิดเหตุ
ก็ประมาณอาทิตย์กว่า แดงก็เกือบหลุดปากออกมาแล้ว เพราะรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
แต่ก็ตัดสินใจไม่เล่าเพราะไม่ต้องการจะรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก
ตอนนั้นแดงเชื่อว่าเฮียเขาไม่รู้เรื่องแน่นอน เขาเองก็สงสัยเหมือนกันค่ะ ว่าแดงเป็นอะไร
เพราะปกติจะมีอารมณ์ร่วมทุกครั้ง
จนกระทั่งผ่านคราวนั้นไปและแดงไม่เห็นเฮียเขามีท่าทีที่เปลี่ยนไปแต่อย่างใด
ก็สบายใจขึ้นทำตัวเป็นปกติเหมือนเดิม กับพี่สามารถนั้น เมื่อเจอกันเขาก็พยายามใช้สายตาขอความเห็นใจ
แต่บางครั้งตาคู่นั้นก็ส่อประกายความต้องการของเขาอยู่เหมือนกัน ก็ได้แต่พยายามห่างๆไว้
พูดจากันเท่าที่จำเป็นเพื่อที่ไม่ให้คนอื่นเห็นพิรุธ
พอโดนแกสะกิดแผลเช่นนี้ แดงก็ต้องทำเป็นไม่รู้เรื่อง ถามกลับไปด้วยเสียงเรียบๆ
“ทำไมคะ เฮียว่าพี่สามารถแกชอบหนูเหรอ”
“ฮื่อ ก็แดงไม่เห็นสายตามันเวลาจ้องแดงเหรอ
แล้วมันเคยสารภาพกับเฮียด้วยว่ามันรักแดงตั้งแต่แรกเห็นเลยละ”
“เฮียว่าพี่เค้ารู้เรื่องเรามั้ย”
แกหัวเราะเสียงดังตอบมาหน้าตาเฉยว่า
“โอ๊ย ป่านนี้รู้กันทั้งบริษัทแล้วมั้ง”
แดงหยิกแกหนับเข้าให้
“ตายละ แล้วแดงจะไปทำงานอย่างไร”
“บ้าน่า โตๆกันแล้ว ของอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องเสียหายซะหน่อย ทำตัวมาอย่างไรก็ทำไปอย่างนั้นแหละ ดีแล้ว”
“อ๋อ หมายถึงให้แดงเป็นเมียเก็บเฮียไปเรื่อยอย่างนี้สิ ได้เปรียบเค้านี่” แดงแกล้งทำเป็นไม่พอใจ
ความจริงแดงอยู่อย่างนี้ก็มีความสุขดีค่ะ นึกอยากไปเที่ยวไหนก็ไป ไม่ผูกมัดต้องมานั่งคอยปรนนิบัติ
แกพลิกร่างมากอดแดงไว้หอมแก้มฟอดหนึ่ง พูดเหมือนรู้ใจ
“แดงเองก็พอใจอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ เฮียน่ะอีกไม่นานก็บ้อลัดแล้ว แดงยังสาวถ้ามาผูกมัดกับเฮีย
จะเสียโอกาสเปล่าๆ”
“กว่าเฮียจะบ้อลัดมีหวังหนูโทรมก่อน นี่เพิ่ง 23 เองเนื้อตัวดูจะเหลวๆหมดแล้ว”
เขาเอื้อมมือมาบีบเคล้นที่อกทั้งสองข้างสลับกันเบาๆ
“ใครบอกเหลว ยังตึงสู้มืออยู่เลย ยิ่งตรงนี้ด้วยแล้ว...”
เขาทอดเสียงในขณะที่แดงห่อตัวคนลุกเมื่อเขาเกลี่ยปลายนิ้วเบาๆไปตามร่องแคมที่ยังชุ่มชื้นจากการร่วมรักที
่เพิ่งผ่านมา
“ทำไม ตรงนั้นของแดงทำไม”ทั้งๆที่รู้ว่าเขาอยากให้เราถาม แต่ก็อดไม่ได้ค่ะ
“ทั้งหนึบแน่น ทั้งฟิตทั้งตอด แถมลีลาดีอีกต่างหาก”
“ก็ได้ครูดีนี่คะ”
“ฮ่ะฮ่ะ”เขาหัวเราะเสียงดัง เล่นเอาแดงชะงักมือที่กำลังเคล้นคลึงท่อนเนื้อเขาอยู่
“อย่าบอกนะว่าหมายถึงเฮีย”
“อ้าวก็ไม่ใช่เฮียแล้วใครล่ะ เดี๋ยวเหอะตอบไม่ดีแดงโกรธด้วย”
“แฟนเก่าพ่อหนุ่มนักศึกษาของเธอนะสิ ชื่ออะไรนะ อ้อ หนึ่ง ถามจริงเหอะยังเจอกันอยู่บ้างรึเปล่า
โอ๊ย”ประโยคสุดท้ายแกร้องออกมาเพราะแดงหยิกหนับเข้าที่โคนขา
“บ้าเหรอเฮีย ก็บอกว่าเขาไปอยู่จังหวัดอื่นแล้ว เอ๊ะ ชักคิดถึงขึ้นมาแล้วสิ”
เฮียแสงดึงร่างแดงขึ้นมาทาบบนร่างแก ปากของเราได้ระดับเดียวกันจึงถูกแกจูบเนิ่นนาน
ก่อนที่แกจะถอนริมฝีปากออกประคองหน้าเราให้สบตาแก
“แดง ถ้าแดงอยากคบคนรุ่นๆเดียวกันแบบเป็นแฟนก็ได้นะ เฮียไม่ว่าหรอก แต่ระวังเรื่องโรคหน่อยก็แล้วกัน
ยิ่งตอนนี้เอดส์กำลังระบาดด้วย” ค่ะ เมื่อประมาณ 12-13 ปีที่แล้ว
โรคเอดส์กำลังเริ่มระบาดเข้าสู่ประเทศไทย แม้จะยังไม่ขยายตัวเป็นวงกว้าง
แต่ความน่ากลัวของมันก็ทำให้การมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ต้องระวังป้องกันมากยิ่งขึ้น
“เฮียพูดเหมือนดูถูกแดง เฮียดีกับแดงอย่างนี้แดงจะทำแบบนั้นได้ยังไง”
“ไม่ได้ดูถูกจ้ะ แต่เฮียไม่อยากปิดกั้นโอกาสหนู แล้วเฮียก็ไม่ปิดโอกาสของตัวเองด้วย บอกตรงๆ
”เฮียเขาพูดไปพลางก็ขยับเขยื้อนหน้าขาให้ท่อนเนื้อของเขาเสียดสีกับเนื้อเนียนที่ต้นขาของแดงเบาๆ
มือก็ลูบไล้งอนก้น
จนเรารู้สึกขนลุกขึ้นมาเมื่อสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทางเบื้องล่าง
นิ้วมือเขาลูบล้วงที่กลีบแคมผ่านทางร่องสะโพกเบื้องหลัง
กลีบแคมถูกกระแสเลือดแห่งความสาวฉีดเลี้ยงจนเต่งอูม
ความชุ่มชื้นถูกขับหลั่งออกมาหล่อเลี้ยงทำให้นิ้วของแกเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วขึ้น
นิ้วชี้ถูกทาบกลางกลีบร่องเบียดกระแซะตามความยาวจนกลีบแคมเผยอ ปลายนิ้วกดทาบอยู่ที่เม็ดมณี
เพียงแค่แกขยิกปลายนิ้วเบาๆแดงก็แอ่นร่างกระตุกเบาๆพร้อมส่งเสียงกระเส่ารอดไรฟันสั้นๆ
พอแกขยับอีกสองสามครั้งแดงก็ทนไม่ไหวต้องดึงมือของแกให้หยุดยั้งไว้
“ไม่ไหวเฮีย แดงเสียวค่ะ เดี๋ยวเสร็จก่อนไม่รู้ด้วยนะ”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย เธอเสร็จบ่อยๆได้นี่” เขาพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง
รัดรั้งร่างแดงให้เป็นฝ่ายขึ้นมาอยู่ข้างบน.....
เอาเป็นว่าพอวันจันทร์ต่อมา พี่สามารถก็ถูกเชิญขึ้นมาพบเฮียแสงที่ชั้นลอย แกบอกเขาให้ช่วยสอนขับรถ
แนะนำเรื่องเครื่องยนต์ อุปกรณ์ส่วนควบต่างๆ ที่พนักงานขายจำเป็นต้องรู้ จริงๆ ก็ไม่กี่ตำแหน่งหรอกค่ะ
เพราะถ้าลูกค้าต้องการดูอะไรที่ละเอียดอ่อนเป็นพิเศษก็เรียกช่างมาช่วยให้คำแนะนำได้
แต่สำหรับแดงซึ่งแกเรียกไปนั่งข้างๆพี่สามารถแล้วก็ฟังอะไรต่อมิอะไรที่แกบอกว่าแดงต้องรู้ เช่น
การจุดระเบิด การทำงานของรอบเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ อะไรเหล่านี้เข้าไปถึงกับมึน
นึกในใจว่าไม่ครูก็นักเรียนต้องตายกันไปข้างหนึ่งแน่นอน
ตลอดเวลาที่เฮียแสงกับพี่สามารถคุยกันนั้น แดงเบือนหน้าไปทางหนึ่งเพราะไม่อยากมองหน้าพี่สามารถ
เนื่องจากภาพเหตุการณ์รุนแรงในวันนั้นมันวูบขึ้นมาเป็นระยะๆ แต่บอกตรงๆนะคะ ระหว่างที่นั่งนิ่งอยู่นั้น
บางช่วงของความคิดก็ตั้งคำถามขึ้นมาว่า แล้วชายที่นั่งข้างๆ ซึ่งมีอะไรกับเราคนนี้จะคิดอะไรอยู่
สายตาอดเหลือบชำเลืองไปไม่ได้
แล้วก็พบว่าสายตาของเขาเหลือบมองลงมาที่รอยผ่าแหวกด้านข้างกระโปรงซึ่งเผยให้เห็นต้นขาอวบของตนเอง
จึงเอามือปัดชายกระโปรงให้บังไว้
เขาละสายตามามองหน้าแดงซึ่งกำลังทำปากขมุบขมิบพอให้เขารู้ว่ากำลังด่าอยู่ในใจ
“นี่ สองคนน่ะ ฟังเฮียพูดอยู่รึเปล่า” แกทักขึ้นมาเมื่อเห็นเราทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างเงียบอยู่นาน
“เอาเป็นว่าลื้อช่วยหน่อยก็แล้วกันนะมาด ไปตกลงกับแดงเองก็แล้วกันว่าจะเรียนกันยังไงตอนไหน ทำได้นะ”
พี่สามารถพยักหน้ารับคำสั้นๆ แล้วก็หันมาทางแดง
“เอาเป็นว่าทุกวันพุธถึงศุกร์ตอนเย็น เริ่มตั้งแต่วันศุกร์นี้ก็แล้วกันนะ พี่จะเตรียมชุดช็อบไว้ให้”
โดยมารยาท แดงยกมือไหว้ พึมพำขอบคุณเบาๆ ก่อนที่จะลุกกลับไปที่โต๊ะทำงาน
ไม่ต่อปากต่อคำเมื่อเฮียแสงตะโกนตามหลังมาว่า “เฮ้ ไม่พาพี่เขาไปเลี้ยงยกครูหน่อยเหรอ”
สำหรับคนที่มีบาดแผล คำพูดล้อเล่นแบบนี้มันบาดหูเหลือเกินค่ะ พี่สามารถก็คงสะดุ้งอยู่ในใจเหมือนกัน
เพราะแกก็พูดอะไร รีบสาวเท้าเดินก้มหน้าออกไปจากห้อง แต่ขณะที่หันมาปิดประตู
สายตาของเราสบกันด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง
เอาเป็นว่าพอถึงวันศุกร์ แม้ว่าจะรู้สึกอึดอัดอย่างไรก็ตาม
แต่ความดีใจที่คิดว่าอีกไม่นานก็จะได้ทำหน้าที่เป็นพนักงานขาย ดังนั้นเมื่อทำงานเสร็จ
แดงก็ลงไปที่อู่ด้านหลังทันที
พี่สามารถตั้งใจแนะนำแดงจริงๆค่ะ กลับมาเป็นพี่ชายที่แสนดีดังเดิม แดงกับเขาก็พูดคุยกันเกือบจะเป็นปกติ
เพราะจะว่าไปเหตุการณ์ก็ผ่านไปกว่าสามเดือนแล้ว
เพียงแต่ต่างฝ่ายต่างยังต้องระวังคำพูดท่าทีของตนอยู่บ้างเท่านั้น
อย่างไรก็ดีความที่เราต้องทำงานใกล้ชิดกัน ทำให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการถูกเนื้อต้องตัวกัน
น่าแปลกที่ว่าบางครั้งแดงกลับมีความรู้สึกวูบวาบอย่างประหลาด
เมื่อถูกเขาถูกต้องเนื้อตัวหรือจ้องมองเราแบบกึ่งบังเอิญกึ่งเจตนา
จนกระทั่งมีเหตุการที่เป็นตัวเร่งเชื้อขึ้น
วันนั้นแดงลืมสวมเสื้อยืดข้างในเสื้อช็อบ ซึ่งเป็นเสื้อคอกว้างและหลวมมาก
มันก็เผยให้เห็นถึงเนินอกขาวเนียน ยิ่งต้องก้มๆเงยๆด้วยแล้ว เห็นลอดไปถึงเอวได้เลยค่ะ
แดงสังเกตเห็นพี่เขาเหลือบชำเลืองมาเป็นระยะ หายใจแรง มือไม้สั่นผิดปกติ หลายครั้งที่ตาของเราสบกัน
ก่อนที่เขาจะรีบหลบสายตาอย่างคนผิด
มันทำให้เกิดความรู้สึกที่ประหลาด เกิดความอยากรู้เข้าไปถึงความคิดของเขาว่าขณะนั้นเขาคิดถึงแดงอย่างไร
ภาพในคืนวันนั้นกลับมาอีก แต่คราวนี้ด้วยเจตนาของแดงที่จะนึกถึงมันอย่างตั้งใจ
เวลาที่ผ่านมาได้ลบล้างความทรงจำที่เจ็บปวด ภาพที่น่าชิงชังออกไป ดังนั้นภาพที่นึกได้คือ
เนื้อตัวที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ สั่นเทาตลอดร่าง
เสียงลมหายใจที่ดังถี่เร็วในยามที่เขาสอดใส่เข้ามาในร่างของเรา
ขนาดที่เขื่องและแข็งเขม็งราวกับของหนุ่มวัยฉกรรจ์
ความตึงแน่นภายในที่แผ่ขยายลึกล้ำเข้าไปอย่างรวดเร็วเมื่อท่อนเนื้อของเขาแหวกกลีบแคมของตนเข้าไปยังฝังอย
ู่ในความทรงจำ แต่คราวนี้แดงนึกถึงมันอย่างปรารถนาที่จะได้รับความรู้สึกแบบนั้นอีก
เนิ่นนานเท่าใดไม่ทราบ
แต่เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตนเองกำลังแนบบดบริเวณเป้ากางเกงของตนกับตัวถังรถนั้น
และสุขสมอย่างรวดเร็วไปแล้วครั้งหนึ่ง
มันอาจจะเป็นธรรมชาติของแดง ธรรมชาติของผู้หญิงในการสืบเผ่าพันธ์เหมือนๆสรรพสัตว์ทั่วๆไปก็ได้
ที่ทำให้เรามีความรู้สึกต้องการทางเพศขึ้นมาอย่างน้อยก็เดือนละครั้งในช่วงที่ไข่สุก
เราอาจต่างจากสัตว์ตรงที่ว่าเรามีโอกาสที่จะเลือก เลือกที่จะสะกดกลั้น
หรือเลือกที่จะระบายมันออกมากับคนที่พึงพอใจ เพียงแต่ว่าสำหรับเพศหญิงแล้ว
สังคมมักกำหนดบทบาทให้เราเป็นผู้ถูกเลือกมากกว่า..แต่วันนั้น แดงเป็นคนเลือกค่ะ
“พี่มาดจ้องอะไรอ้ะ”แดงถามขึ้นในจังหวะหนึ่งขณะที่เงยหน้าขึ้นจากการใส่ไส้กรองอากาศให้เข้าที่ของมันและเ
ห็นสายตาเขาที่จ้องมาจากอีกด้านหนึ่งของรถ เขาสะดุ้ง ยิ้มแห้งๆ
“ขอโทษจ้ะ พี่เผลอไป พยายามห้ามแล้วนะ แต่ก็อดไม่ได้”
เมื่อเขาพูดมาตรงๆก็รู้สึกเขินๆเหมือนกันค่ะ เลือดฉีดซ่านขึ้นใบหน้า
“แดงลืมเอาเสื้อยืดมา”ก็ไม่รู้จะบอกไปทำไมในเมื่อเขาก็เห็นอยู่ค่ะ คงแก้เขิน “เสร็จแล้ว ทำอะไรต่อ”
“เอ้อ พี่อยากชวนแดงออกไปลองรถหน่อย ตอนนี้ขับพอได้แล้วนี่”
การขับรถเป็นอีกอย่างที่แดงตื่นเต้นมากในตอนนั้น เพราะเพิ่งขับเป็นโดยพี่สามารถเป็นผู้สอน อย่างน้อยๆ
มันก็นั่งนิ่มกว่ามอเตอร์ไซค์เก่าๆของแดงละค่ะ
เราทั้งคู่เก็บอุปกรณ์ เดินไปที่ถังน้ำมันการ์ดสำหรับล้างมือ
ขณะที่พี่สามารถส่งฝ้ายดิบยื่นให้เช็ดมือนั้นเขาก็จับมือแดงไว้
“หายโกรธพี่แล้วใช่มั้ย”
“อย่าไปพูดถึงมันเลยค่ะ
เอาเป็นว่าแดงขอบคุณพี่ที่ตั้งใจสอนแดงมาตลอดก็แล้วกัน”แดงปล่อยให้เขาจับมือแดงเช็ดด้วยฝ้ายดิบจนคราบน้ำ
มันต่างๆให้ พี่สามารถดูมีท่าทีพอใจยิ่ง เขาประคองมือแดง อีกข้างหนึ่งบรรจงใช้ผ้าค่อยถูแรงๆจากปลายเล็บ
นิ้วเรียว ใจกลางฝ่ามือ ความหยาบสาก ความอบอุ่น
และอาการสั่นน้อยๆของมือเขาทำให้แดงเองก็เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย พึงพอใจอยู่เงียบๆ
“นี่ก็ไม่มีอะไรจะแนะนำแล้วละ
ต่อไปนี้คงไม่ได้อยู่กับแดงใกล้ๆเช่นนี้อีก”ปากพูดไปตาจ้องอยู่ที่ข้อมือของแดงที่เขากำลังใช้ผ้าคลึงแรงๆ
เช็ดคราบที่เปื้อนออก จากข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งจนมือทั้งสองเกลี้ยงเกลา
จึงหันไปทำความสะอาดมือตัวเองบ้าง
“แดงคงต้องขอคำปรึกษาพี่บ่อยๆหละน่า พี่ว่าแดงพอจะเป็นเซลส์ได้มั้ย”
“สบายมาก พูดเก่งอย่างนี้ สวยอีกต่างหาก..”เขาชะงักนิดหนึ่งเมื่อพูดถึงตรงนี้
จ้องตาเพื่อดูว่าแดงจะว่าอะไรมั้ย เมื่อเห็นแดงยิ้มให้ เขาก็เลยพูดต่อ
“เดี๋ยวเอารถไปลอง แล้วหาที่สบายๆทานข้าวกันนะ”
ไม่นานนักเราก็มานั่งคู่กันในรถแวนตรวจการใหม่เอี่ยมอ่อง
ต่างจังหวัดอย่างนี้ไม่ค่อยเข้มงวดเรื่องป้ายแดงอะไรเท่าไรหรอกค่ะ เพราะตำรวจกับคนขายก็รู้จักกันดี
ตอนนั้นประมาณทุ่มเศษแล้ว
แดงซึ่งตอนนั้นเปลี่ยนมาอยู่ในชุดทำงานเรียบร้อยแล้วรับหน้าที่คนขับ
แผนการถูกวาดขึ้นในใจอย่างเงียบๆว่าจะไปไหนอย่างไร โดยที่อีกฝ่ายนั่งไปด้วยเงียบๆ
เป้าหมายของแดงคืออำเภอแห่งหนึ่งห่างออกไปประมาณ 50 กว่ากิโล ใหญ่พอสมควรเพราะเป็นชุมทางรถยนต์จาก 2-3
จังหวัดแถวนั้นต้องวิ่งผ่าน
ที่นั่นมีโรงแรมม่านรูดเล็กๆแต่สะอาดสะอ้านซึ่งแดงกับเฮียแสงไปใช้บริการมาแล้ว
ออกจากเมืองไปได้ไม่นาน สองข้างทางเป็นไร่อ้อยมืดทึบ นานๆจึงจะมีรถแล่นสวนมา
จังหวะหนึ่งที่แดงเปลี่ยนเกียร์เขาก็วางมือลงมากุมมือแดงไว้
คงเข้าใจความรู้สึกตอนนั้นนะคะว่าใจมันจะเต้นตึกตักเพียงใด
แดงยังคงขับรถต่อไปเงียบๆเพราะนั่นตรงกับความปรารถนาตั้งแต่เริ่มแรกอยู่แล้ว
เขาใช้นิ้วมือไล้คลึงนิ้วเรียวและหลังมือของแดงแผ่วเบาเป็นจังหวะเหมือนจะหยั่งดูท่าที
เมื่อเห็นแดงนิ่งเงียบ มันก็ค่อยเปลี่ยนมาเป็นนวดเน้นไล่ไปทีละนิ้วเหมือนกับตอนที่เขาเช็ดคราบน้ำมันให้
ไม่นานนิ้วทั้งสิบของเราต่างก็เกี่ยวกระหวัดพันกันเหมือนปลายหางของฝูงงูที่กำลังเสพสังวาส
ความหยาบสากของมือเขาทำให้แดงหวนนึกถึงรสสัมผัสของมือเซียง
และนั่นแทบจะทำให้แดงปลดเปลื้องตัวเองเพื่อให้เขาใช้มือนั้นตระโบมไปทั่วร่าง
เป้าหมายของแดงคืออำเภอแห่งหนึ่งห่างออกไปประมาณ 50 กว่ากิโล ใหญ่พอสมควรเพราะเป็นชุมทางรถยนต์จาก 2-3
จังหวัดแถวนั้นต้องวิ่งผ่าน
ที่นั่นมีโรงแรมม่านรูดเล็กๆแต่สะอาดสะอ้านซึ่งแดงกับเฮียแสงไปใช้บริการมาแล้ว
ออกจากเมืองไปได้ไม่นาน สองข้างทางเป็นไร่อ้อยมืดทึบ นานๆจึงจะมีรถแล่นสวนมา
จังหวะหนึ่งที่แดงเปลี่ยนเกียร์เขาก็วางมือลงมากุมมือแดงไว้
คงเข้าใจความรู้สึกตอนนั้นนะคะว่าใจมันจะเต้นตึกตักเพียงใด
แดงยังคงขับรถต่อไปเงียบๆเพราะนั่นตรงกับความปรารถนาตั้งแต่เริ่มแรกอยู่แล้ว
เขาใช้นิ้วมือไล้คลึงนิ้วเรียวและหลังมือของแดงแผ่วเบาเป็นจังหวะเหมือนจะหยั่งดูท่าที
เมื่อเห็นแดงนิ่งเงียบ มันก็ค่อยเปลี่ยนมาเป็นนวดเน้นไล่ไปทีละนิ้วเหมือนกับตอนที่เขาเช็ดคราบน้ำมันให้
ไม่นานนิ้วทั้งสิบของเราต่างก็เกี่ยวกระหวัดพันกันเหมือนปลายหางของฝูงงูที่กำลังเสพสังวาส
ความหยาบสากของมือเขาทำให้แดงหวนนึกถึงรสสัมผัสของมือเซียง
และนั่นแทบจะทำให้แดงปลดเปลื้องตัวเองเพื่อให้เขาใช้มือนั้นตระโบมไปทั่วร่าง
แดงไม่หันไปทางเขาตามองนิ่งตรงไปตามทางเบื้องหน้า ปล่อยให้เขาแสดงถึงความต้องการตามอารมณ์ออกมา
มือของเขาเริ่มสั่นนิดๆเมื่อไต่ลูบไล้ขึ้นมาตามท่อนแขน
สัมผัสนั้นทำให้ตุ่มขนของแดงเห่อลุกอย่างห้ามไม่ได้
ความรู้สึกที่แผ่ซ่านบริเวณหน้าขาทำให้แดงต้องขยับสะโพกตนเองในบางจังหวะ เพื่อตอบสนองอารมณ์ของตนเอง
ในเส้นทางที่มืดมิดจะมีเพียงก็แสงเรื่อๆสะท้อนกลับมาจากไฟหน้าที่สาดส่องออกไปนั้น
เงาของเขาขยับเคลื่อนเข้ามาใกล้ พร้อมกับเสียงหายใจหนักๆแสดงถึงความเครียดเขม็งของเขา
เพื่อเป็นการผ่อนคลาย แดงจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน
“พี่สามารถรักแดงจริงๆเหรอ หรือแค่ต้องการเฉยๆ”
ดูเหมือนเขาจะสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่จะเคลื่อนไหวมือต่อไป มันสอดเข้าแขนเสื้อไล้ที่ไหล่กลมกลึงของแดง
“รักมาก แต่มันคงเป็นไปไม่ได้”เขาตอบด้วยเสียงสั่นๆ หลังจากแดงถามย้ำเป็นครั้งที่สอง
“รักแล้วทำไมวันนั้นต้องทำกับแดงแบบนั้นด้วย”
“ไม่รู้สิ ความหึงมั้ง พี่เห็นเฮียเค้าทำกับแดงแล้วมันทั้งน้อยใจ
ทั้งต้องการ”เขาดึงมือของแดงจากการประคองพวงมาลัย
กุมไว้ในมือเขาบีบเบาๆเหมือนต้องการถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆผ่านเข้ามา
“พี่มีสิทธิอะไรมาหึงแดง”
เขาอึ้งไปชั่วขณะ ยอมให้แดงดึงมือกลับไป ความมืดและเงียบเป็นกำแพงไร้สภาพกั้นระหว่างเรา
“ไม่มี ไม่มีสิทธิ”ในที่สุดเขาก็เอ่ยออกมาช้าๆ จนแดงนึกสงสาร
“ต้องการนอนกับแดงใช่มั้ย”ประหลาดใจเหมือนกันที่ตัดสินใจถามออกไปเช่นนั้น แต่ไม่รู้สิคะ
ความรู้สึกในขณะนั้นเหมือนแดงเป็นผู้ชนะ ผู้ที่มีสิทธิในการเลือก
ผู้ที่ป้อนคำถามกับผู้ชายคนหนึ่งที่เคยใช้กำลังจาบจ้วงกับตัวเองมาก่อน
เพื่อให้เขาสารภาพความรู้สึกออกมาอย่างหมดเปลือก
“แดงล่ะนี่ก็ตั้งสามเดือนกว่าแล้ว รู้สึกอย่างไรกับพี่” เขายังไม่ยอมบุ่มบ่ามตอบออกมา
หากแต่ตั้งคำถามเพื่อดูท่าทีของแดง
อย่างช้าๆ แดงใช้มือดึงรั้งขอบกระโปรงขึ้น มันร่นแหวกขึ้นมาตามรอยผ่าด้านข้างจนถึงต้นขา
ในความมืดนั้นมันขาวโพลนอยู่ในแสงสลัว
“ชอบดูต้นขาแดงมากไม่ใช่เหรอคะ เป็นไงบ้างละ”ยังคงเป็นฝ่ายตั้งคำถามโดยที่ยังไม่ละสายตาจากเส้นทาง
เพียงแต่ชะลอความเร็วลง แต่ก็ยังชำเลืองเห็นเขาขยับตัวอย่างอึดอัด คงไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไร
มือเขาทำท่าจะเอื้อมมาสัมผัสแต่ก็ยั้งไว้
“สวยมาก แดงทำอย่างนี้ทำไมยั่วพี่เหรอ”เสียงของเขาแหบพร่า เหมือนคนคอแห้งขนาดหนัก
“เปล่าก็เห็นพี่ชอบดู แดงก็ให้ดูไง ไม่ต้องบังคับ ว่าไงพี่ยังไม่ตอบแดงเลยว่าอยากนอนกับแดงใช่มั้ย”
“ทำไม ถ้าใช่แล้วแดงจะยอมพี่รึ”เพศชายคงเป็นแบบนี้หรอกคะ ไม่ยอมที่จะเป็นฝ่ายถูกต้อน
อย่างน้อยก็ขอให้ได้เป็นคนตั้งคำถาม แดงหัวเราะเบาๆ หันหน้าไปมองเขาแวบหนึ่ง
รถเริ่มเข้าบริเวณชานอำเภอแล้ว แสงไฟนีออนจากบ้านที่ตั้งอยู่ในถนนสาดเข้ามาในรถเป็นระยะๆ
แดงเห็นเขาจ้องนิ่งอยู่ที่ขาอ่อนแดง มือวางไว้ที่กล่องใส่ของข้างคันเกียร์ ห่างจากต้นขาแดงไม่ถึงคืบ
เหมือนๆกับอยากสัมผัสแต่ไม่กล้า
“แดงเป็นฝ่ายถามให้พี่ตอบค่ะ ส่วนตอบแล้วแดงจะทำอย่างไร มันเป็นสิทธิของแดงไม่ใช่เหรอ”
เขาเอนกายเข้ามาเหมือนกับจะหอมแก้ม แต่แดงเอนใบหน้าห่างออกมาทำให้เขาต้องหัวเราะแก้เก้อ
“แดงก็น่าจะรู้ดีนี่ว่าพี่ต้องการแดงมาก”
“รู้มั้ย ที่พี่ทำกับแดงวันนั้นน่ะมันเจ็บมาก”
“พี่ขอโทษจริงๆ บอกแล้วไงว่าพี่ห้ามใจไม่ไหว สัญญาจะไม่ทำแบบนั้นอีก”
นี่ขนาดแดงยังไม่ได้บอกเขานะว่าจะยอม แกด่วนสรุปไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
“ไม่กลัวเฮียแสงรู้”
“พี่ว่าถ้าเรื่องนี้เราพอใจด้วยกัน เก็บไว้เงียบๆแกก็ไม่รู้หรอก”
“แต่แดงละอายใจ
แดงทำไม่ได้หรอก”จริงแล้วหลังจากที่พูดกันเปิดอกกับเฮียแสงคืนนั้นว่าต่างฝ่ายต่างๆม่มีอะไรผูกมัด
แดงก็สบายใจขึ้นมาก แดงเองถือว่าไม่ได้ทรยศหักหลังแก เพราะถือว่าต่างฝ่ายต่างพึงพอใจ เฮียเค้ามีพระคุณ
แต่ในขณะเดียวกัน แดงก็ทำงานอย่างเต็มที่ เต็มความรู้ความสามารถ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่ต้องละอายใจ
แต่ที่พูดออกไปนั้นต้องการที่จะดูกริยาของพี่สามารถเล่น
มันตื่นเต้นดีนะคะที่เห็นอีกฝ่ายหนึ่งต้องควบคุมความต้องการของตน ต้องอึดอัดทุรนทุราย
เหมือนได้แก้แค้นเล็กๆ ความรู้สึกนี้ทำให้อารมณ์ของแดงตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
แล้วก็ได้ผลเมื่อพี่สามารถดูเหมือนจะหัวเสีย แต่ก็รีบเก็บอาการไว้
“แล้วแดงจะพูดมาทำไม ยั่วพี่เล่นงั้นเรอะ”
แดงหักพวงมาลัยเข้าไปในโมเต็ลเล็กๆแห่งนั้น พนักงานโรงแรมคงจะประหลาดใจเหมือนกันที่เห็นคนขับเป็นผู้หญิง
รีๆรอๆอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจรูดผ้าใบปิดเหมือนที่เคยปฏิบัติ แต่ไม่ยอมเดินเข้ามาถาม
“แดงร้อน แดงจะอาบน้ำ พี่จะรอในรถหรือไปรอในห้องก็ได้”
แดงออกจากรถแล้วชี้มือไปที่ประตูเป็นความหมายว่าเปิดห้อง ความจริงก็กระดากอยู่เหมือนกันนะคะ
แต่ก็ข่มความรู้สึกนั้นไว้ได้ คนอย่างแดงกันยานั้น หากต้องการที่จะทำอะไรแล้วก็ไม่มีอะไรขวางหรอกค่ะ
เจ้าหนุ่มนั่นยังคงยืนเซ่อ มองแดงอย่างงงๆ จนแดงสั่งว่าเปิดห้องชั่วคราวนั่นแหละ ถึงได้มาเปิดห้องให้
แดงเดินเข้าไปในห้อง โดยที่พี่สามารถยังคงนั่งอยู่ในรถ แกคงยังตัดสินใจไม่ถูกมั้งคะ เมื่อเจอแบบนี้เข้า
เมื่อชำระเงินกับบ๋อยซึ่งยิ้มให้แดงอย่างแปลกๆแล้วแดงก็เข้าไปข้างใน
บนเคาทน์เตอร์เตี้ยๆใต้กระจกบานใหญ่นั้น มีตระกร้าใส่ผ้าเช็ดตัว สบู่ หวี แล้วก็ถุงยางอนามัยวางอยู่
การขลุกอยู่ในอู่รถมาตั้งแต่เย็น ทำให้แดงรู้สึกเหนียวตัวจริงๆค่ะ
ดังนั้นจึงรีบผลัดผ้าของตัวเองมานุ่งผ้าเช็ดตัวผืนสั้นเต่อเดินเข้าไปในห้องน้ำซึ่งอยู่ถัดจากประตูตามแบบ
โรงแรมทั่วไป ล็อกกลอนแน่นหนาดีแล้วก็จัดการกับตัวเอง ไม่มีอ่างอาบน้ำหรอกค่ะ มีแต่ฝักบัว
แต่ก็ช่วยดับอารมณ์ที่ร้อนรุ่มได้เป็นอย่างดี
เสียงประตูทำให้รู้ว่าพี่สามารถเข้ามาแล้ว ถัดมาก็เป็นเสียงสั่งอาหารกลับบ๋อย
ก่อนที่จะเงียบไปมีเพียงเสียงทีวีที่ดังขึ้นมาแว่วๆ
มันตื่นเต้นดีนะคะ แดงเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะกล้าถึงขนาดนั้น แต่ยอมรับค่ะว่า
มีความรู้สึกต้องการมากในตอนที่เห็นเขาจ้องหน้าอกแดง
อาบน้ำไปก็คิดเหมือนกันง่าถ้าออกไปแล้วเขาเกิดบ้าระห่ำขึ้นมาอีกจะทำอย่างไร
แต่แดงเชื่อค่ะว่าเหตุการณ์แบบวันนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะเขาได้รับบทเรียนไปแล้วประการหนึ่ง
และอีกประการหนึ่งแดงเองก็พร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของเขา
เพียงแต่ยังอยากจะเล่นเกมส์อะไรบางอย่างอยู่
แดงรอจนบ๋อยมาส่งอาหารแล้วพักใหญ่จึงออกจากห้องน้ำ
พบว่าพี่สามารถเอนกายกึ่งนอนอยู่บนเตียงในมือมีแก้วเบียร์อยู่
สายตาของเขาจ้องมาที่โคนขาขาวที่พราวด้วยหยดน้ำสะท้อนแววแห่งความต้องการอย่างเต็มที่ซึ่งก็คงไม่น้อยไปกว
่าแดงเหมือนกัน
“อย่าลุกขึ้นมานะ ไม่งั้นแดงกลับจริงๆด้วย
เรายังมีเรื่องต้องคุยกันอีกมาก”แดงบอกเขาเมื่อเห็นเขาทำท่าเหมือนจะผวาเข้ามา พี่สามารถยิ้มฝืนๆ
มองตามร่างแดงที่เดินไปนั่งเก้าอี้เตี้ยๆทางปลายเตียง
แดงไม่สนใจว่าผ้าเช็ดตัวผืนสั้นจะชะเวิกชะวากเพียงใดยามหย่อนร่างลง และเมื่อนั่งไขว่ห้างแล้ว
มันก็ร่นรั้งขึ้นมาถึงแก้มก้นอวดความเนียนตึงแน่นของลำขา
รู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วหน้าท้องเมื่อเห็นสายตาของเขาที่จ้องมาเหมือนเหม่อลอย รินเบียร์ให้ตัวเองบ้าง
“เหม่อเชียวคิดอะไรอยู่เหรอ”
“ปละ..เปล่า แดงสวยจัง อิจฉาเฮียแสง”
“อิจฉาทำไม พี่ก็ได้แดงไปแล้วนี่”
“มันไม่เหมือนกัน พี่ขอโทษจริงๆ พี่เสียใจ”
ด้วยเจตนาจะยั่วเขา แดงแกะปมผ้าเช็ดตัวที่หน้าอก แล้วขมวดกระชับใหม่ ไม่ช้าไม่เร็วแต่
ก็อวดจงอยถันขนาดใหญ่ของตนเอง ความรู้สึกเหมือนถูกโลมไล้ด้วยมือชายตรงนั้นเลยค่ะ
พี่สามารถเอ่ยเสียงเครือ
“แดงยั่วพี่ทำไม พี่จะทนไม่ไหวแล้ว”
“ต้องไหว แดงอยากให้พี่รู้ว่า คนเราถ้าพึงพอใจน่ะ ไม่ต้องใช้กำลังจะให้ความรู้สึกที่ดีกว่ากันเยอะ”
พร้อมกับขยับขาเป็นท่านั่งปกติแต่แยกถ่างกว้างเล็กน้อย แวบหนึ่งที่สายตาของเขาสอดไล่ไปในซอกผ้า
ไม่รู้เหมือนกันว่าเห็นเข้าไปเพียงใด เพราะสายตาเขาอยู่ในมุมที่สูงกว่า ครู่หนึ่งแดงก็เอามือวางพาดตัก
ปิดช่องทางให้พ้นจากสายตาซุกซน
“เอ๊ะ พี่ตอบแดงรึยังนะที่ถามว่าต้องการนอนกับแดงมากเหรอ”
เขาทำท่าเหมือนจะลุกขึ้นมา แต่แดงใช้สายตาปรามไว้ ในขณะที่เขารีบอธิบาย
“เปล่าทำอะไรน่า จะไปเอาเบียร์น่ะ”
แดงหยิบขวดเบียร์ลุกขึ้นเดินช้าๆไปยืนข้างตัวเขา ใบหน้าของพี่สามารถอยู่ในระดับเดียบวกับโคนขา
ห่างไปไม่ถึงช่วงแขน พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอย่างตั้งใจ
“ส่งแก้วมาสิคะ ให้น้องสาวคนนี้ได้บริการพี่ชายบ้าง”
คอของเขาคงแห้งผากเพราะแดงเห็นลูกกระเดือกที่คอเขาขยับถี่เร็วเหมือนพยายามจะกล้ำกลืนน้ำลายและความรู้สึก
หลายๆอย่างไปพร้อมๆกัน แต่ก็ยื่นแก้วเบียร์มา แดงจับมือของเขายกสูงขึ้นอีก ค่อยๆรินเบียร์ใส่แก้วช้าๆ
ในขณะที่เขาจ้องมาที่โคนขาและหน้าท้องเหมือนจะมองทะลุผ้าได้
“ว่าไงคะอยากนอนกับแดงจริงๆเหรอ”
“พี่รักแดง ต้องการแดงมากจริง”เขาลุกขึ้นนั่งหันมาทางแดงเอื้อมมืออีกข้างมากุมมือแดงบ้าง
ท้องที่ว่างทำให้เบียร์ออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว รู้สึกเนื้อตัวจะวูบวาบไปหมด
เมื่อเหลือบชำเลืองดูตนเองก็พบว่าผิวออกสีชมพูเรื่อๆ
ความมึนนอกจากจะกระตุ้นความต้องการแล้ว ยังทำให้เกิดความกล้าด้วย แดงปลดปมผ้าเช็ดตัวออก
ปล่อยให้มันไหลลงไปกองกับผืนเผยร่างเปล่าก่อนที่จะยกท่อนแขนข้างหนึ่งขึ้นบังอก
มืออีกข้างปิดเนินเนื้อหน้าขาของตนไว้
“แดงสวยมั้ย “
ดูเหมือนเขาจะตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนที่จะระล่ำระลักตอบ
“สวยมาก พี่อยากเอาแดงเหลือเกิน อย่าทรมานพี่ต่อเลย”
ตรงนี้หรือเปล่าที่พี่ว่าสวย”ถามในขณะที่เลื่อนมือที่เกาะกุมเนินเนื้อของตนขึ้นมาลูบไล้หน้าท้อง
เผยกลุ่มไหมุนุ่มสีดำและเนินอูมหน้าขา เขาทำท่าเหมือนจะโอบรั้งแดงเข้าไป แต่ยังหรอกค่ะ แค่นี้ยังไม่สาใจ
“อยู่นิ่งๆนะ ห้ามทำอะไรก่อนที่แดงจะอนุญาต”
หยิบแก้วเบียร์ออกจากมือเขาวางไว้ที่หัวเตียง
ก่อนที่จะดึงมือข้างนั้นมาวางทาบที่เนินเนื้อของตนจับมันลูบไล้ช้าๆ
ก่อนที่จะปล่อยให้เจ้าของมือกระทำต่อไป
มือที่สากที่สั่นน้อยๆให้ความรู้สึกซ่านในอารมณ์จนต้องหลับตาลงชั่วครู่ ดื่มด่ำกับรสสัมผัสนั้น
แต่พอรู้สึกว่าเขาเริ่มขยับปลายนิ้วแหวกแซะกลีบเนื้อ
แดงก็ก้มตัวลงผลักร่างเขาให้นอนพาดขวางเตียงโดยมีร่างเปลือยของแดงขึ้นทาบ
มือแต่ละข้างจับแขนเขาตรึงกับที่นอน เป็นสัญญาณให้เขาอยู่นิ่งเฉย ก่อนก้มลงไปกระซิบ
“นอนนิ่งๆนะ ถ้าขยับเป็นอด”
พี่สามารถพยักหน้า ขยับปากจะพูด แต่แดงทาบนิ้วส่ายหน้าช้าๆ เป็นสัญญาณย้ำอีกครั้งให้เขานิ่ง
แดงนั่งคร่อมร่างของเขาบริเวณหน้าท้อง ถ่ายน้ำหนักไปที่เขาทั้งสอง ยืดร่างตรง
สายตาของอีกฝ่ายจับจ้องที่ทรวงอก ทำให้แดงอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาลูบไล้มัน
ปลายเต้าที่ถูกมือตนเองสัมผัสชี้ชัน แดงเป็นคนที่หัวนมใหญ่ค่ะ
จากนั้นก็ค่อยๆแกะกระดุมเสื้อของเขาทีละเม็ด จะว่าไปแล้วรูปร่างของพี่เขาค่อนข้างผอมด้วยซ้ำ
แต่ในความผอมนั้น มีความคล้ำแกร่งเกร็งของผู้ชายอยู่เต็มเปี่ยม
พี่สามารถตอนนี้เป็นเด็กที่ว่าง่ายไปแล้ว ขยับตัวช่วยให้แดงถอดเสื้อกล้ามของเขาออก จากนั้น...อย่างช้าๆ
แดงทาบร่างจนหน้าอกเปลือยเปล่าเบียดสัมผัสหน้าอกของเขา
กลิ่นสาบเหงื่ออ่อนๆของเพศชายช่วยกระตุ้นเร้าอารณ์อีกทางหนึ่ง
บดเคล้าร่างตัวเองกับร่างที่ดูเหมือนจะเกร็งสั่นน้อยๆเพราะความตื่นเต้นของเขาชั่วครู่
ก็เริ่มไล้ลิ้นกับหน้าอกนั้น ตวัดลิ้นเลียไปทั่ว พี่สามารถกระตุกในบางจังหวะความเสียว
บางครั้งมือไม้ขยับจะโอบรัดแต่แดงซึ่งจับสังเกตอยู่ยื้อยุดให้มันกลับไปวางข้างตัวตามเดิม
“แดง ปล่อยพี่เถอะ พี่อยากกอดแดงเหลือเกิน”
แดงเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธเบี่ยงร่างลงมานั่งข้างๆ
มือข้างหนึ่งปลดเปลื้องซิบกางเกงของเขาออก ขยับอีกสองสามจังหวะ ท่อนเนื้อขนาดเขื่องของเขาก็โผล่ออกมา
สัมผัวกับความแข็งจนเส้นเลือดรอบโป่งเป็นเส้นสายเหมือนกับจะระเบิด
แดงรูดรั้งหนังหุ้มให้มันเผยหัวบานสีคล้ำจากนั้นใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือวนไล้เนื้ออ่อนที่ไวต่อการสัมผัสนั้น
ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งเมื่อเห็นน้ำเหนียวใสเล็ดออกมาจากร่องที่ปลายหัวความจริงปรารถนาที่จะก้มหน้าลงไปชิ
ม แต่ยั้งใจได้ คงใช้แต่มือลูบ รูด คลำคลึงไปทั่วอวัยวะแห่งเพศนั้นม
พี่สามารถเองก็คงทรมานไม่น้อยค่ะที่ทุกอยน่างอยู่ในความควบคุมของแดงโดยไม่อาจกระทำตาใจปรารถนาได้
เขาหลับตาพริ้ม แขนขากระตุกตามจังหวะความเสียวที่ถูกแดงป้อนอย่างต่อเนื่อง ปากพึมพำ
“พอแล้วแดง ไม่ไหวแล้ว”
มือของเขาป่ายเปะปะมาบนลำขาเนียน พยายามจะซุกเข้าซอกขา แต่แดงจับรั้งมันขึ้นเกาะกุมเต้าอวบ
ปล่อยให้มันลูบคลำเนื้อแท้ๆ ทั้งนี้เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ตึงเครียดของเขา
ไม่งั้นอาจจะระเบิดออกมาเป็นการใช้ความรุนแรงอีกก็ได้ เขากอบกุมเคล้นคลึง
บางครั้งใช้ปลายนิ้วบีบเม้มปลายเต้าที่ชี้ชันของแดง จนต้องสูดปากครางเบาๆทั้งหนักหน่วง
ทั้งเสียวซ่านจากความสากที่ถูไถไปบนเนื้อเนียนของตน แดงคว้าหมอนใหล้ๆมือมาสอดหนุนก้น
โยกเอวบดส่ายกลีบแคมเสียดสีเพื่อสนองความต้องการของตนบ้าง
“เบาๆหน่อยพี่”
ที่แก่นกายของเขาแดงเร่งความเร็วของมือ สาวรูดหนังหุ้มสีเข้มของมันขึ้นลง
สลับกับการกอบกุมพุ่มพวงที่เต็มไปด้วยขนหยาบลูบเคล้นเบาๆ สองขาของสามารถเริ่มเหยียดเกร็ง
ในขณะที่ปากร่ำร้อง
“ไม่ไหวแล้วแดง พี่จะเสร็จแล้ว”
แดงจับจ้องสายตาไปที่จุดนั้น ไม่บ่อยนักหรอกค่ะที่จะได้เห็นการระเบิดพุ่งเมือกขาวข้นของผู้ชาย
จำได้ว่าเคยเห็นของหนึ่งเพียงครั้งเดียว
มันเป็นภาพที่น่าตื่นตามากเมื่ออวัยวะส่วนนั้นเบ่งพองจากขนาดที่ตึงเต็มอยู่แล้วของมัน
น้ำสีขาวจางๆกระเซ็นออกมาก่อนจนบางหยาดกระทบลำขาเปลือยเปล่าของแดง ก่อนที่ความขุ่นข้นจะล้นทะลักตามมา
ย้อยเยิ้ม แดงสาวมือเร็วขึ้นเพื่อรีดทุกหยดหยาดจนทั้งลำเนื้อนั้นและมือของแดงเปียกชุ่มเมือกลื่นไปด้วย
ก่อนที่เขาจะทนไม่ไหวบิดกายเกร็ง มือที่อยู่บนหน้าอกกุมขยุ้มอย่าลืมตัว ก่อนที่จะคลายออก
แล้วทิ้งลงข้างตัวอย่างหมดแรง เช่นเดียวกับแดงที่ส่งตัวเองถึงอารมณ์สุขสมจนไม่รู้สึกถึงแรงบีบเคล้นนั้น
ความสุขสมแบบสุดๆครั้งหนึ่งด้วยตนเอง ทำให้ถึงกับอ่อนแรงไปเหมือนกันค่ะ
แดงซบหน้านอนตะแคงหนุนหน้าท้องแบนราบของพี่สามารถเอียงหน้าไปทางปลายขาเพื่อให้สายตาจับจ้องเจ้าท่อนเนื้อ
ซึ่งบัดนี้ดำปลาบเป็นมันละเลื่อมและกำลังค่อยๆกลับสู่สภาพปกติของมัน
แม้กระนั้นก็ยังดูมีขนาดเขื่องน่าระทึกเชียวค่ะ
พักในท่านี้ครู่ใหญ่ปล่อยให้พี่สามารถไล้มือสากกับแผ่นหลังเปลือยเปล่าจนถึงก้นกอยของตน
รับสัมผัสหนักแน่นเมื่อมือของเขานวดเฟ้นเนื้อหนั่นเนียนบริเวณนั้นด้วยความพอใจปล่อยให้กระแสสัมผัสแผ่ซ่า
นไปถึงร่องก้นก่อนที่จะพลิกกายตะแคงกลับอีกด้าน สบสายตาเขา
“เป็นไงคะ เห็นไหมว่าไม่ต้องทำอะไรรุนแรงก็มีความสุขได้”
“แดงชอบแบบนี้เหรอ”
“ก็ไม่เชิงค่ะ แต่อย่างน้อยมันก็ไม่เจ็บปวด”
อีกครั้งที่แววตาของเขาสลดลงเหมือนสำนึกเสียใจ พึมพำเบาๆ
“พี่ขอโทษอีกครั้ง แดงจ๊ะ คืนนี้แดงค้างกับพี่ได้ไหม”
“ไม่ได้หรอก พรุ่งนี้ทำงาน แล้วต้องเอารถไปเก็บด้วย ลืมแล้วเหรอ”
“เสียดายจัง”เขาถอนหายใจออกมา จับมือของแดงที่เขี่ยหัวนมของเขาเล่นให้หยุดนี่ง บีบคลึงมันเบาๆ
เหมือนต้องการถ่ายทอดความปรารถนาภายในผ่านมาตามท่อนแขนเรียวของแดง
“เสียดายอะไร เมื่อกี้ไม่ดีเหรอ”
“ดี แต่มันเหมือนกับไม่เต็มอิ่ม”
“ทำไมคะ ผู้ชายนี่ต้องสอดใส่เข้าไปหรือถึงจะมีความสุข”
“มันก็ให้ความรู้สึกที่ดีกว่า บอกตรงๆนะ พี่ยังจำช่องทางที่หนึบแน่นของแดงได้
เก็บเอามาฝันตลอดเวลาเลยว่าจะได้ทำแบบนั้นอีก”
“อย่าพูดถึงมันเลยค่ะ เดี๋ยวแดงโกรธอีกหรอก ไม่เอาแล้วแดงไปล้างมือก่อนนะ เหนียวเหนอะเลย พี่ก็เหมือนกัน
เดี๋ยวอาบน้ำด้วยล่ะ เหม็นสาบ ฮิฮิ”
แดงผละจากเขามาชำระล้างคราบไคลอีกครั้ง ก่อนที่จะนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนสั้นมานั่งที่เก้าอี้จิบเบียร์ต่อ
ในขณะที่พี่สามารถกลายเป็นเด็กว่าง่าย คว้าผ้าเช็ดตัวเดินดุ่มเข้าห้องน้ำบ้าง
ไม่นานนัก ร่างชะลูดของพี่สามารถก็มาคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าแดง ใบหน้าของเขาสูงเสมออก
เงยหน้ามองสบตาแดงด้วยสายตาวิงวอน
“แดงอย่าทรมานพี่เลยนะ”
ก็เข้าใจความรู้สึกของผู้ชายนะคะว่าเวลาที่ต้องการระบายออกแล้วไม่ได้สมใจมันอึดอัดอย่างไร
เหมือนกับบางครั้งกับหนึ่งหรือพี่ชาติที่ต้องการแล้วแดงเกิดเป็นเมนส์ขึ้นมา
เขาก็จะแสดงออกถึงความหงุดหงิด ถึงจะใช้มือช่วยก็ดูเหมือนจะคลายความต้องการได้ไม่เต็มที่
“แดงเปล่าแกล้งพี่นะ แต่มันดึกแล้ว ลุกขึ้นเหอะพี่ วันเวลายังอีกยาวนาน แค่นี้พี่ก็น่าจะสบายใจได้แล้ว
ดื่มเบียร์ให้หมดจะได้กลับ แดงหิวแล้วด้วย นะคะ” พูดกับเขาอย่างอ่อนหวาน
พร้อมกับรินเบียร์ที่เหลือส่งให้ สามารถยอมลุกขึ้นไปนั่งเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง
ตาจับจ้องมาที่โคนขาซึ่งผ้าเช็ดตัวถลกรั้งขึ้นเนื่องจากแดงนั่งไขว่ห้าง จ้องนานๆก็ชักเขินเหมือนกันค่ะ
จนต้องขยับขามานั่งท่าปกติ
“วันหลังคงไม่มีโอกาสแบบนี้หรอก เดี๋ยวเฮียแสงเล่นงานตาย”
“อ้าวไหนว่าซี้กันไง กลัวด้วยเหรอ”
“เอ้อ ..ไม่รู้สิ มันคงรู้สึกไม่ค่อยดีนะถ้าเฮียรู้”
“งั้นวันนั้นที่พี่บอกว่าเฮียแสงเขาบอกให้พี่มาปล้ำแดงก็โกหกน่ะสิ”
“พี่ขอโทษจริงๆ เอาเถอะ เดี๋ยวเราไปหาอะไรกินกันก่อนกลับบริษัท ไป”
อย่างน้อยคำสารภาพของเขาก็ทำให้แดงสบายใจขึ้นว่าเฮียแสงไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วย
รู้สึกรักแกมากขึ้นเป็นกอง ดีใจที่เมื่อตะกี้ไม่มีอะไรกับพี่เขามากไปกว่านั้น
ในขณะที่พี่สามารถเมื่อรับผิดแล้วคงเกิดความละอาย เลยตัดใจได้
แดงหัวเราะกิ๊กออกมาเมื่อเห็นท่าทางงุ่นง่านของเขาในขณะที่ก้มคว้าเสื้อขึ้นมาสวม
“ว่าง่ายๆอย่างนี้แดงรักตายเลยค่ะ”แล้วก็ยื่นหน้าไปหอมแก้มตอบๆของเขาฟอดหนึ่งก่อนที่จะเดินไปสวมเสื้อผ้า
ที่มุมห้องอีกด้านหนึ่งบ้าง
เสียเวลานิดหน่อยเมื่อพี่สามารถซึ่งจัดการตนเองเรียบร้อยแล้วเดินเข้ามาสวมกอดและหอมแก้มซึ่งแดงก็ยอมตามใจเขาจนกระทั่งริมฝีปากใกล้จะประกบกันนั่นแหละค่ะ จึงดันร่างเขาเบาๆ
“พอแล้วค่ะ เดี๋ยวก็ยุ่งกันใหญ่ แดงหิวแล้วด้วย นะนะพี่ชายคนดี”แดงพูดกลั้วหัวเราะ
เขายอมปล่อยร่างแดงโดยดี เดินดุ่มไปที่ประตู
ขากลับพี่สามารถเป็นคนขับรถค่ะ ในเส้นทางที่มืดและเงียบนั้น เขากุมมือแดงไว้เกือบตลอดเส้นทาง
เราแวะทานข้าวต้มกันก่อนที่จะนำรถไปเก็บที่บริษัท ก่อนที่จะแยกจากกัน
แม้ว่าเหตุการในวันนั้นจะผ่านพ้นไปโดยที่ไม่มีการสอดใส่ก็ตาม
แต่แดงก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีความปรารถนาในตัวพี่สามารถเพียงไร จำได้ว่าในคืนนั้น
แดงคิดถึงภาพที่ผ่านมาสดๆอยู่นาน
ภาพอวัยวะขนาดใหญ่ดำของเขาในขณะที่หยาดลาวาขาวข้นออกมาตัดกับผิวดำละเลื่อมราวกับนิล
ความแข็งและสากของข้อนิ้วในขณะที่ลูบตระโบมทรวงอกและร่างเปล่าเปลือยของแดง
มันกระสับกระส่ายจนต้องกล่อมตัวเองด้วยปลายนิ้วอีกครั้งหนึ่งจึงจะหลับลงได้
มันเป็นเหมือนเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้แล้วโดยพรหมลิขิต หรือแดงลิขิตเองก็ตามแต่
พี่สามารถพยายามหาโอกาสที่เราอยู่ด้วยกันสองคนรวบร่างแดงเข้าไปกอดจูบอยู่เรื่อยเวลาปลอดคน
หน้าห้องน้ำบ้าง ก่อนจะกลับบ้าง
มันเหมือนกับกองไฟเล็กๆที่ไม่อาจมอดดับได้เพราะเราต่างก็ช่วยกันเติมเชื้ออยู่เสมอ
แต่ในขณะเดียวกันแดงเองก็ต้องใช้ความพยายามราไฟเมื่อเห็นว่ามันเริ่มจะลุกไหม้ขึ้นมา
เป็นเรื่องที่ทั้งเหนื่อยและทรมาน
แต่ก็สบายใจตรงที่ว่าอย่างน้อยแดงก็ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้วที่จะไม่ปล่อยให้ชายอื่นล่วงล้ำเข้าไปนอกจากเฮียแสง
จนกระทั่งวันหนึ่ง ช่วงนั้นเฮียแสงเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อติดต่องานสองสามวัน
พี่สามารถขึ้นมาหาแดงถึงบนห้องทำงาน ตอนนั้นเที่ยงแล้ว
แดงกำลังพิมพ์จดหมายอยู่กะว่าเสร็จก็จะลงไปทานข้าว
พอเข้ามาแกก็จับมือแดงออกแรงดึงเป็นสัญญาณให้เราลุกขึ้น ก็ลุกขึ้นตามแรงฉุดแกล่ะค่ะ มีใจอยู่แล้วนี่
แกดึงเราไปที่มุมห้องด้านหน้า ซึ่งพ้นจากรัศมีของกระจก
ดันร่างของเราแนบกับตู้เอกสารมือทั้งสองข้างสอดรั้งเข้ามาที่ซอกแขนเหมือนจะตรึงเราไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว
ก่อนที่จะกดแนบร่างเข้ามา จำได้ว่าตัวเองแหงนหงายใบหน้าหลับตาพริ้มเพื่อรอรับรสจูบเหมือนกับทุกคราว
แล้วก็ไม่ผิดหวังเมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวนั้นทาบประกบกับริมฝีปากหนาอิ่มของตนเอง
ลิ้นเล็กเรียวบางแต่ยาวของเขาสอดเคล้าเข้ามาซึ่งแดงเองก็เต็มใจที่จะดูดรับและกระหวัดลิ้นของตนแตะไล้อย่า
งกระหาย เนิ่นนานจนต่างฝ่ายต่างต้องถอนปากออกหอบหายใจ แต่เขาไม่เว้นจังหวะให้เสียเวลา
มือทั้งสองลูบเคล้นหนักๆไล่มาตามชายโครงถึงเอวอิ่มก่อนที่จะดึงรั้งชายเสื้อพ้นขอบกระโปรงแล้วสอดย้อนเข้า
ไปสัมผัสกับเนื้อเนียนภายใน
ความสากหยาบของมือที่สัมผัสกับเนื้ออ่อนๆบริเวณชายโครงให้อารมณ์จนขนที่ลำแขนแดงลุกกรูเกรียว
สองมือโอบรั้งต้นคอเขาเขย่งขาเผยอหน้าขึ้นเป็นฝ่ายประกบจูบบ้าง
เมื่อมือของเขาสอดลอดชายบราเซียร์เข้าไป
ความคับแคบทำให้ข้อนิ้วแข็งบดเบียดกับเนื้อหยุ่นชนิดสัมผัสได้ถึงปูดโปนของข้อนิ้วที่ทาบทับเคล้นคลึง
ในเนื้อที่จำกัดนั้น
พี่สามารถยังพยายามที่จะงอนิ้วเพื่อใช้ปลายเล็บที่ตัดสั้นสะกิดเขี่ยหัวนมท้งสองข้างพร้อมๆกัน
แล้วแดงก็ถึงกับกระตุกร่างด้วยความเสียวเมื่อเขาทำได้สำเร็จ
มือของแดงเลื่อนรูดตามแผ่นหลังของเขาโดยอัตโนมัติ
รัดรั้งเอวเขาให้เบียดบดเข้ามาในขณะที่ตนเองก็ทั้งเขย่งทั้งแอ่นหน้าท้องเข้าบดเบียดหน้าขาของเขาจนสัมผัส
ได้ถึงความแข็งเขม็งที่เหมือนจะแหวกทะลุเนื้อผ้าออกมาจนอดไม่ได้ที่จะต้องวกมือตัวเองมาด้านหน้าเพื่อสัมผัสด้วยการลูบคลึงอย่างหนักๆ คราวนี้เขาเป็นฝ่ายเกร็งรัดร่างของแดงเข้ามาแนบแน่นบ้าง
จนร่างของเราทั้งสองแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
มาได้สติก็ตอนที่เขาเลิกรั้งชายกระโปรงแดงขึ้น
เนื้ออ่อนที่หน้าขาสัมผัสกับความหยากสาบของมือเขานั่นแหละค่ะ จึงได้เบนหน้าถอนริมฝีปากออก
สองมือยันอกเข้าไว้ เอ่ยปากห้ามทั้งๆที่ใจเต้นแรงกระเส่าและหอบหายใจภี่รัว
แดงไม่สามารถเผลอตัวไปได้มากกว่านี้ค่ะ
“พอแล้วพี่ เดี๋ยวใครพรวดพราดเข้ามา”
ดูเหมือนเขาเองก็ได้สติเช่นกันว่ากำลังอยู่ไม่ถูกที่ถูกเวลา เราจึงผละออกจากกัน
แต่ไม่ก่อนที่เขาจะยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มแดงส่งท้ายพร้อมกระซิบ
“เดี๋ยวไปทานข้าวด้วยกันนะ”
แน่นอนค่ะว่าความหมายของเขามากกว่าการกินข้าวธรรมดา แต่ต้องการสานต่ออารมณ์ให้สมบูรณ์
เผอิญว่าแดงเองก็ร้อนจนไม่อาจดับได้เช่นกันจึงพยักหน้าเอียงอายไปกับเขาด้วย
จัดเสื้อผ้าตัวเองและผมเผ้าเข้าที่เข้าทางแล้ว เราก็ออกมาด้วยกัน
แต่แทนที่เราจะไปทานข้าว ความปรารถนาที่ค้างคาอยู่ทำให้พี่สามารถขับรถตรงไปที่บ้านของเขา
ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวปลูกอยู่ชานเมืองห่างผู้คนพอประมาณ
โดยแดงเองก็ไม่ได้ขัดขืนนอกจากถามเขาล้อๆว่าไหนว่าจะพามากินข้าว แต่ก็ยอมลงจากรถตามเขาเข้าบ้านไปโดยดี
พอก้าวล่วงพ้นประตูเข้าไปเท่านั้นก็ถูกเขารวบร่างเข้าไปไว้ในวงแขน
ต้นคอถูกเขาหอมไซร้จนรู้สึกขนลุกไปทั่วร่าง
ในขณะที่เนินนูนหน้าขาถูกกุมกำไว้ในอุ้งมือของเขาแม้จะเป็นเพียงภายนอก
แต่สัมผัสเคล้นที่หนักหน่วงนั้นก็ทำให้แดงถึงกับครางเบาๆออกมา
ปล่อยให้เขาประคองร่างพาเดินไปที่โซฟาตัวยาว ไม่แข็งขืนเมื่อเขาผลักร่างให้ลงนอนราบลงไป
พี่สามารถลงนั่งคุกเข่าสูงกับพื้น ซบใบหน้าลงที่ทรวงอกกดขยี้วนคลึงเนื้อนุ่มทั้งสองนั้น
ในขณะที่แดงก็สนองโดยการโอบรัดบดศรีษะของเขาให้แนบแน่นยิ่งขึ้นพร้อมกับแอ่นอกขึ้นรับสัมผัส
กระดุมเสื้อถูกเขาปลดทีละเม็ดก่อนที่มันจะถูกแหวกออกให้เห็นกายท่อนบนที่เนียนขาวและเต้าเต่งซึ่งหุ้มอยู่
ในบราสีเหลืองขับเนียนผิว
สองมือขยุ้มผมของเขาให้ส่ายเคล้าอย่างลืมตัวเมื่อเนื้ออ่อนบริเวณนั้นถูกลมหายใจร้อนผ่าวของเขาเป่ารดจนสยิวซ่าน ขยับแอ่นหลังให้เมื่อมือเขาสอดเข้าไปปลดตะขอบรา
ก่อนที่จะเงยหน้ามองดูภาพที่เขาก้มลงดูดเม้มยอดแดงเข้มเข้าไปในปาก
แล้วก็ดิ้นพราดขาส่ายเปะปะจนกระโปรงถลกร่นเมื่อเขาเม้มคลึงมันด้วยริมฝีปากอุ่นชื้นนั้นสลับกับการดูดและขบเบาๆด้วยฟัน มันเสียวจนเผลอจิกเล็บฝังไปบนต้นคอของเขาเพื่อระบายอารมณ์ซ่านของตนเอง
ไม่เพียงแต่ปากที่ดูดเม้มเท่านั้น
มือของเขายังป่ายเฟ้นไปทั่วร่างของแดงไม่ว่าจะอยู่ในเสื้อผ้าหรือที่ถูกเปิดเปลือยแล้ว
เต้านมทั้งสองดูจะเป็นจุดที่เขาคลั่งไคล้ที่สุด
เพราะใช้ทั้งมือและปากอยู่เนิ่นนานจนมันฉ่ำลื่นไปด้วยเหงื่อและน้ำลาย
เรารีบร้อนจนลืมเปิดกระทั่งหน้าต่างและพัดลม
จนกระทั่งเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองหน้าที่พราวไปด้วยเหงื่อของแดงนั่นแหละจึงนึกได้
“ตายจริง พี่ขอโทษ ร้อนแย่เลยแดง”
แม้จะเสียจังหวะไปบ้างตอนที่พี่เขาผละไปเปิดหน้าต่างและพัดลมเพดาน
แต่กระแสลมชายทุ่งที่สดชื่นก็ช่วยให้เราทั้งคู่สบายตัวขึ้นไม่น้อย
เมื่อเขาคุกเข่าลงอีกครั้งนั้นคราวนี้เลื่อนตำแหน่งไปอยู่บริเวณช่วงเอวของแดง
ตาเข้มเขม็งมองมาที่ต้นขาอวบขาวเพราะกระโปรงร่นรั้งขึ้นไปจากการดิ้นส่ายของแดงเมื่อครู่
มือของเขาสอดควานเข้าไปภายในในขณะที่ซบหน้าลงคลุกเคล้าหน้าท้องเรียบเนียนของแดง
ตลอดเวลาแดงยกกายส่วนบนขึ้นดูการกระทำของเขาอย่างระทึกใจตามไปด้วย
จังหวสะของเขาผ่อนเบาลงทั้งความเร็วและความรุนแรง
มือของเขาที่ลับหายไปใต้กระโปรงนั้นบัดนี้มันคลึงเคล้าอยู่ที่อูมเนื้อหน้าขาที่มีเพียงกางเกงในตัวบางๆปิ
ดอยู่ มันชื้นมาตั้งแต่ที่บริษัทแล้วค่ะ และตอนนี้ร่างกายก็ขับหลั่งหยาดน้ำออกมาให้มันแฉะชุ่มไปทั่ว
ท่าทางเขาจะประทับใจกับความลื่นที่ซึมผ่านใยผ้าออกมานั้น
ก่อนที่จะทาบนิ้วชี้ลงไปตามร่องแยกที่ยังเบียดเม้มอยู่ความปรารถนารสสัมผัสที่ลึกล้ำทำให้แดงเผยอแยกขาออก
ข้างหนึ่งลงยันพื้น ในขณะที่อีกข้างหนึ่งเหยียดวางกับพนักโซฟา
ในขณะที่กระโปรงถลกร่นขึ้นไปกองอยู่บนหน้าท้อง แดงมองภาพนิ้วของเขาที่ถูไถขึ้นลงช้าๆ
บางครั้งเบียดทาบเหมือนจะให้มันฝังจมเข้าไปตามรอยแยกนั้น บอกตรงๆค่ะ
การได้เห็นภาพตัวเราเองถูกเร้าโลมเป็นเครื่องกระตุ้นอารมณ์ได้อย่างมากมายเหลือเกิน
ใจมันเต้นสั่นหวิวๆอย่างไรพิกล ในที่สุดก็หักห้ามใจตนเองไม่ได้
พยุงกายขึ้นอีกหน่อยหนึ่งเพื่อให้มือเอื้อมไปคว้าจับมือหยาบสากของเขาไว้ได้ถนัด
ก่อนที่จะกุมนำปลายนิ้วชี้ให้เบียดขอบข้างกางเกงในเข้าไปสัมผัสกับส่วนที่สุดสงวนของตนเองทำสัญญาณให้มันปักดิ่งชำแรกเข้าไป
พี่สามารถเข้าใจอาการนั้นได้ไม่ยาก โดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นจากการเคลียเคล้าเนินหน้าท้อง
เขาค่อยๆแซะนิ้วเรียวแต่แข็งแกร่งนั้นเข้าไปในช่องทางที่ชุ่มลื่นไปด้วยเมือก
ดันมันขึ้นด้านบนสุดเพื่อให้ข้อนิ้วที่ปูดโปนของเขาครูดสัมผัสกับติ่งเนื้อซึ่งบัดนี้เต่งกระตุบด้วยเลือด
ที่หลั่งมาหล่อเลี้ยง แดงสะดุ้งถึงกับครางขาถีบพราดเปะปะ
เมื่อความสากของนิ้วสัมผัสกับจุดรวมประสาทแห่งความเสียวนั้น
พร้อมๆกับที่ปลายนิ้วของเขางอเกี่ยวขึ้นคลึงเคล้าผนังภายในของตนมือที่เคยชักนำมือของเขาให้เคลื่อนไหวบัด
นี้กับจิกเกร็งลงกับหลังมือเขากดลงเพื่อเป็นสัญญาณให้เขาหยุดความเคลื่อนไหวชั่วครู่
ในขณะที่ตนเองหลับตาพริ้มดื่มด่ำกับความเสียวที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างนั้น
เพียงแค่เราทั้งคู่เขยื้อนสลับกับหยุดนิ่งอยู่ตรงจุดนั้นอีกสองสามครั้ง แดงก็ร้องโอ๊วออกมา
ขาสองข้างกระตุกเหยียดเกร็งถึงสวรรค์ไปแล้วครั้งหนึ่ง
พี่สามารถคงรู้ได้จากเสียงคราง อาการเกร็งและการตอดกระตุบภายใน ทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ จำได้ว่าตัวเองปรือตาหยาดเยิ้มส่งยิ้มอายๆให้และ พยักหน้ารับเมื่อเขาถามว่า
“ดีไหม”
คราวนี้เขาคงได้ใจ ขยับขึ้นมานั่งเบียดข้างๆ ใช้มือสากทั้งสองข้างนั้นลูบไล้เบาๆเหมือนจะสำรวจร่างกายของแดง ตรงไหนที่เสื้อผ้ายังเกะกะอยู่เขาก็ถอดออกจนในที่สุดร่างของแดงก็เปลือยเปล่าขาวเนียนอยู่ท่ามกลางแสงจ้าของยามบ่าย มันเขินจนต้องผินหลังตะแคงให้เขา หลับตาปล่อยให้เขานวดหลังไหล่เบาๆ
“แดงสวยอิ่มไปทั้งตัวเลย หิวหรือยัง”
แดงสั่นศรีษะแทนคำตอบพึมพำถาม
“กี่โมงแล้วพี่”
“บ่ายโมงกว่าแล้วจ้ะ จะกลับไปทำงานหรือ”
“พี่ยังไม่เสร็จไม่ใช่เหรอ” แดงเหลียวหน้ากลับมาถามเขา อดเป็นห่วงความรู้สึกของเขาไม่ได้ ก็แหม เขาอุตส่าห์ส่งเราขึ้นสวรรค์ไปแล้วนี่คะถ้าปล่อยให้เขาค้างเติ่งก็ดูออกจะใจดำเกินไป
“ไม่เป็นไรหรอก แค่ได้อยู่ใกล้ๆ ได้ชื่นชมแดงก็มีความสุขแล้ว”
คำตอบของเขาน่ารักจนแดงต้องลุกขึ้นมาหอมแก้มเบาๆฟอดหนึ่ง ตั้งใจเอาอกเปลือยของตัวเบียดกับแขนที่ผอมเกรน็งแต่แข็งแรงนั้น เขาหันมาสบตาแดงมุมปากมีรอยยิ้ม ในขณะที่แววตามีความปรารถนาเปี่ยมล้น
“มา..แดงทำให้พี่บ้าง”
สองมือเอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อช็อบของเขาทีละเม็ด ก่อนที่จะแหวกมันออก แล้วดันร่างเขากลับเข้าด้านในนั่งพิงพนักโซฟา แล้วขึ้นนั่งตักเขาโดยหันหน้าเข้าหากัน รู้สึกขนลุกกรูเกรียวอีกครั้งเมื่อมือสากหยาบของเขาไล้ไปทั่วแผ่นหลังเปลือย ประกบปากจูบชำแรกลิ้นนุ่มเข้าไปในกระพุ้งปากที่เผยอรอของเขาอย่างเร่าร้อน ลิ้นของเราแตะไล้สัมผัสกันและทุกสัมผัสนั้นเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นวูวาบไปทั่วร่าง หอบหายใจชั่วขณะเมื่อถอนปากออก แล้วก้มลงตวัดลิ้นเลียแผ่วที่อกปอดๆของเขา ลิ้นสีชมพูและริมฝีปากแดงอิ่มเคลื่อนไปตามผิวกายที่หยาบคล้ำ พี่สามารถเป็นฝ่ายสะดุ้งผวาครางบ้าง เมื่อแดงไล้ลิ้นวนที่หัวนมเล็กๆจนขนสั้นๆเปียกชื้นและมันแข็งเต่งขึ้นมา เม้มดูดด้วยริมฝีปาก ก่อนที่จะขบเบาๆด้วยไรฟัน รู้สึกสาสมอารมณ์เมื่อเห็นเขาส่งเสียงรอดไรฟันแผ่วๆและบางจังหวะเผลอมือเคล้นขยำเรือนร่างของแดงทุกแห่งที่ที่มือไม้ของเขาป่ายเปะปะไปถึง มือนุ่มของแดงเคลื่อนเข้าเกาะกุมความแข็งเกร็งที่เป้ากางเกงของเขาอีกครั้ง ก่อนที่จะรูดซิบมันออก สอดลอดเข้าไปเคลียเคล้าความแข็งและอุ่นผะผ่าวของมัน ก่อนที่จะกุมนิ้วนุ่มรอบลำกล้องยาวนั้นรูดขึ้นลงช้าๆ ถึงตอนนี้พี่สามารถปลดเปลือยตนเองจนเหลือแต่เรือนร่างผอมชะลูด คล้ำ แต่แกร่งเกร็ง มีเพียงกางเกงในเท่านั้นที่ดูเหมือนว่าเขาต้องการให้แดงเป็นผู้ถอดมันออกด้วยมือตนเอง
พร้อมๆกับก้มหน้าลงไปมอง แดงรูดกางเกงในเขาออกช้าๆ ตาจับจ้องท่อนเนื้อที่เริ่มเผยออกมา หัวบานใหญ่สีคล้ำเข้ม ปลายที่มีน้ำใสๆเยิ้มอซึมออกมา ก่อนที่จะถลกรูดออกจนหมด ท่อนเนื้อยาวครึ่งไม้บรรทัดและใหญ่ประมาณถ่านไฟฉายขนาดใหญ่ดีดผึงเหยียดตรงอวดสัดส่วนของมัน ดำสนิทประดุจแท่งนิลตัดกับมือขาวผ่องของตนเองที่รูดรั้งช้าๆและเนียนเนื้อหน้าขาขาวผ่องของแดง อดไม่ได้ที่จะแอ่นร่างเบียดให้มันสัมผัสกับเนินอวบอูมของตน ก่อนที่จะกระถดถอยออกมาอย่างเกรงว่าจะห้ามใจตนเองไม่อยู่
“ขอพี่เหอะนะ” เขากระซิบเสียนงกระเส่าข้างใบหู พยายามกอดรั้งก้นแดงให้เคลื่อนเข้าไปสัมผัสแก่นกายเขาอีก แต่แดงส่ายหน้า จูบปลายคางเขาเบาๆ
“มาแดงจะทำให้ รับรองว่าดีกว่าที่พี่ต้องการอีก”
มันเหมือนกับสิ่งที่ท้าทายค่ะ แดงยังคงต้องการรักษาช่องทางนั้นไว้ในขณะนั้น ไม่ต้องการที่จะทรยศต่อเฮียแสงมากไปกว่าที่เป็นอยู่ สองมือยันหน้าอกเขาไว้ กระถดร่างลงมาคุกเข่ากับพื้น ก่อนที่จะรั้งร่างเขามานั่งหมิ่นขอบโซฟาแล้วก้มหน้าลงไปนะจุดนั้น
จมูกสูดซับกลิ่นกายของชาย มันแปลกๆแต่กระตุ้นเร้าอารมณ์ให้ร้อนแรงขึ้นมาได้ ปลายลิ้นตวัดเลียร่องชิมรสหยาดน้ำใส ก่อนที่จะตวัดเลียเนื้ออ่อนรอบๆ พี่สามารถสะดุ้งร่าง ครางแผ่ว
“ซี้ด แดงทำอย่างนี้ได้ด้วยเหรอ”
เป็นคำถามที่เจ้าตัวคงไม่ต้องการคำตอบหรอกค่ะ เพราะเห็นเงียบไปมีเพียงเสียงสูดปากครางสลับขึ้นมา เมื่อแดงใช้มือรูดหนังที่หุ้มนั้นถลกร่น ก่อนที่จะส่งปลายของมันผ่านเข้ากลีบปากหนานุ่มของตนเอง
ลองออกแรงดูดจนแก้มตอบ ซึ่งก็ได้ผลเพราะเขาแอ่นเกร็งหน้าขา มือที่ลูบไล้เรือนผมเปลี่ยนมาเป็นเหมือนดึงรั้งให้หงายออก แต่แล้วคงเปลี่ยนใจเพราะเสียดายความรู้สึกซ่านเสียวนั้น
สำหรับแดงแล้ว มันแข็งเขม็งอยู่ในปาก ถูกลิ้นตวัดไล้เลียล่วงลึกเข้าไปเรื่อยเลยคอหยักของมันจนเกือบกึ่งกลางลำ ลึกกว่านั้นไม่ไหวค่ะ เมื่อเห็นว่าถึงจุดที่ต้องการแล้ว ก็เม้มริมฝีปากกับหนังหุ้มนั้น ก่อนที่จะโยกศรีษะขึ้นลงช้าๆ..และเร็วขึ้นเรื่อยๆ บางจังหวะเขาแอ่นหยัดขึ้นมาจนกระทบเพดานปาก บางจังหวะ ทั้งเขาและแดงกระถดถอยรูดรั้งหนังหุ้มขึ้นมาจนแทบจะปิดปลายหัวของมัน จนกระทั่งรู้สึกถึงจังหวะที่มันเบ่งพองก่อนที่จะระเบิด กำลังกลั้นใจที่เต้นระทึกรอมันทะลักล้นเข้าปากเป็นครั้งแรกด้วยความเต็มใจและกระหายใคร่รู้เพราะมันจะเป็นครั้งแรกที่ผู้ชายได้ถั่งทะลักในปากของตนเอง
ความรู้สึกแรกที่ของเหลวข้นฉีดพุ่งไปทั่วกระพุ้งปากนั้น คือความวาบกระสันต์จนแทบจะถึงจุดอีกครั้ง มานึกภายหลังจึงจำได้ค่ะว่ามือของตนเองเลื่อนลงมาคลึงเคล้ากลีบและเกสรของตนถี่เร็วและรุนแรง ร่างกระตุกสั่นเหมือนใจจะขาดทั้งๆที่เป็นฝ่ายกระทำ ความรู้สึกนั้นส่งผ่านมาที่ปากให้ดูดเคล้นทุกหยดหยาดอย่างเอาจริงเอาจังโดยไม่รู้ตัว กลิ่นคาวและรสที่ปร่า รวมทั้งความลื่นละมุนของของเหลวปริมาณไม่ใช่น้อยแผ่เต็มช่องปาก บางส่วนแทบจะล้ำล่วงเลยลงไปในลำคอจนต้องเผยอริมฝีปากให้มันทะลักล้นออกมาภายนอกบ้าง ตอนนี้พี่สามารถได้แต่เหยียดเกร็งแอ่นหยัดกายท่อนล่างขึ้น ตาหลับปี๋คงจะเพราะความรู้สึกซ่านเสียวแบบสุดๆจนกระทั่งทนไม่ไหว ต้องกระถดกายถอย
“พอแล้วแดง อูย ดีเหลือเกิน พี่ไม่ไหวแล้ว”
เป็นจังหวะเดียวกับแดงเองก็สุดกลั้นลมหายใจ ต้องถอนปากออกมาเช่นกัน เมือกลื่นไม่ต่ำกว่าช้อนคาวยังเป็นก้อนขลุกอยู่ในกระพุ้งปาก โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับมันดี จนกระทั่งพี่เขาเอื้อมมือไปดึงกระดาษทิชชูบนโต๊ะส่งให้นั่นแหละค่ะ
เนิ่นนานเท่าใดไม่ทราบได้ที่แดงเอียงแก้มซบกับลำขาของพี่สามารถด้วยความอิ่มเอมและเหนื่อยอ่อนเช่นเดียวกับเขา มารู้สึกตัวอีกครั้งเพราะมือกระด้างที่ลูบไล้เรือนผมเราเบาๆไปมานั่นแหละค่ะ จึงเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ซึ่งจ้องมองมาที่เรือนร่างเราอยู่ก่อนแล้ว แดงยิ้มอายๆ หยิกขาเขาเบาๆ
“กี่โมงแล้วเนี่ยพี่ ไม่เรียกกันบ้างเลย จ้องเอาจ้องเอาอยู่ได้”
“จ้องเฉยๆจ้ะ ไม่ได้เอา แดงนี่ผิวเนียนจริงๆนะ”
เสน่ห์อย่างหนึ่งของพี่สามารถที่ประทับใจแดงมาตั้งแต่เริ่มทำงานก็คือความขี้เล่นลึกๆของเขาละค่ะ ไม่ใช่เพ้อเจ้อ แต่เป็นแบบหน้าตาย
“ฮื้อ ใครจะไปทั้งหยาบทั้งดำแบบพี่ล่ะ คนมีสกุลจ้ะ”เขาหัวเราะชอบใจ จับหัวแดงเขย่าไปมาอย่างมันเขี้ยว
“ถามจริงๆ ใครสอนให้ใช้ปากน่ะ เฮียเหรอ มืออย่าซนสิเดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีกหรอก”
เขาปรามเบาๆ เมื่อแดงใช้มือลูบไล้เจ้าผลกลมๆนั้น ก่อนที่จะเผลอบีบเบาๆอย่างมันเขี้ยวแล้วลุกขึ้นยืนอวดร่างเปลือยเต็มสัดส่วนต่อหน้าเขา หัวเราะกิ๊กเมื่อเขาดีดตัวขึ้นเอาหน้ามาเกลือกไซร้หน้าท้องเนียนของแดง
“ไม่เอาแล้ว แดงเข้าห้องน้ำก่อน จะไปทำงานต่อดีมั้ยเนี่ย”
“เกือบบ่ายสองแล้ว ยังไม่ได้กินข้าวเลย โดดร่มวันนึงเหอะ”เขางึมงำ มือสากลูบเคล้นเนื้อแน่นที่ก้นกอยอย่างมันเขี้ยวจนแดงต้องเอื้อมไปหยิกเป็นการปราม ก่อนที่จะก้มลงไปหอบเอาชุดที่กระจัดกระจายอยู่บริเวณนั้นแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ เผอิญว่าแดงเคยมาที่บ้านพี่เขาหลายครั้งเหมือนกันค่ะ แต่มากับเฮียแสงและเพื่อนๆ
พอเข้ามาอยู่ลำพังในห้องน้ำก็อดคิดถึงการกระทำตนเองไม่ได้ รู้สึกไม่สบายใจเหมือนกันเพราะเหมือน
กับทรยศต่อเฮียแสง ตำหนิตนเองที่ไม่อาจหักห้ามความต้องการได้ แต่ก็ปลอบใจตัวเองในเวลาถัดมาว่าอย่างน้อยแดงกับพี่เขาก็ไม่ได้มีอะไรล่วงล้ำก้ำเกินไปกว่าการสร้างความสุขให้แก่กันและกันแต่เพียงภายนอก มันจะเป็นเพราะความสงสารพี่สามารถหรือเพราะความต้องการลึกๆที่แอบแฝงอยู่แดงก็ไม่แน่ใจตัวเองนัก แต่ก็ตั้งใจในบัดนั้นว่าจะกลับไปทำงานต่อ เพราะกลัวทั้งใจตัวเองและเขาเหมือนกัน
พี่สามารถแสดงสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย เมื่อแดงบอกถึงความตั้งใจ แต่ก็พยักหน้าเงียบๆยอมแต่งตัวแต่โดยดี ชั่วไม่นานเราทั้งคู่ก็กลับมาที่ทำงานอีกครั้ง
พอวันเสาร์ ซึ่งเราทำงานกันครึ่งวัน โทรศัพท์บนโต๊ะของเฮียแสงดังขึ้นเมื่อใกล้เที่ยง แดงรับสายและดีใจเมื่อได้ยินเสียงเฮียแสง
“แดงเหรอ เฮียกลับมาแล้วนะ มีของมาฝากด้วย เดี๋ยวเลิกงานแล้วแวะมาบ้านเฮียหน่อยสิ”แกพูดสั้นๆแค่นั้นแล้วก็วางสาย
บ้านของเฮียแสงอยู่ในรั้วใหญ่หลังอู่ แยกปลูกออกมาโดดๆจากเรือนหลังใหญ่ที่เป็นที่อยู่ของอาม้า เฮียกวง พนักงานบริษัทคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ เพราะเราใช้สนามอันกว้างใหญ่สวยงามของมันจัดงานเลี้ยงอยู่บ่อยๆ เมื่อเปิดประตูก้าวเข้าไปในบ้านของแก เสียงแกก็ดังลงมาจากข้างบน
“หนูแดงเหรอ ขึ้นมาข้างบนสิ”
ด้วยความคุ้ยเคย แดงรีบขึ้นไปข้างบนด้วยความดีใจที่จะได้พบหน้าเฮียแสง สามีโดยพฤตินัย มุ่งตรงไปที่ห้องนอนของเขา
เมื่อเปิดประตูไม้สลักเข้าไป ไอเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศก็สัมผัสกาย ห้องนั้นกว้างขวาง เด่นตาด้วยเตียงนอนขนาดใหญ่ปูผ้าแพรสีแดงสดชิดมุมด้านหนึ่ง อีก มุมหนึ่งนั้นทีประตูออกไปสู่ระเบียง ตั้งขวางด้วยชุดโซฟาเล็กๆสำหรับนั่งดูหนังหรือฟังเพลง เฮียแสงในชุดเปลือยท่อนบนอวดพุงน้อยๆของแก นุ่งกางเกงแพรสีเขียวนั่งจิบเบียร์อยู่บนโซฟาตัวยาว พอเหลียวมาเห็นแดงก็ตบมือลงกับเบาะเป็นสัญญาณให้ไปนั่งข้างๆ
แดงเดินไปด้านหลังแกก่อน โอบมือกอดรอบคอแกแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่ คิดถึงจริงๆค่ะในอารมณ์นั้น เฮียตบหัวแดงเบาๆ
“มามานั่งนี่เลย ไม่เจอหลายวันดูอวบสวยขึ้นนะ รึได้ปุ๋ยดี”
คำพูดล้อเล่นนั้นเล่นเอาแดงใจหายวูบ เหมือนเด็กที่ถูกจับได้ว่ากระทำความผิด แต่ก็กลบเกลื่อนด้วยการนั่งเคียงข้าง ซบหน้าไปเลียไล้หัวนมแกเล่นเบาๆ ซึ่งทำให้แกหัวเราะออกมา
“ถ้าแดงอวบขึ้นน่ะ เพราะนอนหลับเต็มอิ่มต่างหาก ไม่มีใครมากวนใจ”
แกตบหัวแดงเล่นเบาๆ ในขณะที่มือซ้ายลูบย้อนชายเสื้อยืดขึ้นมาสัมผัสผิวเนียนภายในเคลื่อนขึ้นมาบีบเคล้นหนักหน่วงที่เนื้อเต้า มือที่เย็นทำให้แดงอดสะดุ้งไม่ได้
“อ้อ เดี๋ยวนี้เห็นเราเป็นตัวกวนใจไปแล้ว นี่ขนาดไปแค่สี่วันนะ”
“โอ๊ะโอ๋ อย่าทำเป็นใจน้อยเลยน่า หนูคิดถึงเฮียจะตาย”ก็ไม่ได้ตอแหลนะคะ คิดถึงจริงๆด้วย เหมือนเด็กขาดญาติผู้ใหญ่ ส่วนที่ไปไหนต่อไหนกะพี่สามารถน่ะ มันเป็นอีกเรื่องอีกอารมณ์หนึ่งค่ะ ออดอ้อนแล้ตัวเองก็ถลกเสื้อขึ้นเผยร่างส่วนบนยั่วคนแก่เล่น พลางจับมือแกสอดเข้าไปในบราเซียร์สีน้ำเงินเข้ม มันได้อารมณ์ดีนะคะ เวลามือผู้ชายบดเบียดกับเต้าของเราในที่แคบๆแบบนั้น ยกทรงจะพังก็ช่างเหอะค่ะ
แกสนองตอบโดยนกางมือกุมเต้าข้างซ้ายไว้ ใช้นิ้วหัวแม่มือบดขยี้กับปลายเต้าซึ่งเริ่มเต่งตั้งขึ้นรับความซ่านเสียวสู้มือของแก ชั่วไม่นานเนื้อนุ่มก็ถูกขยำเฟ้นจนแดงเองต้องครางแผ่วเป็นคราวๆ ก่อนบราฯถูกปลดเหวี่ยงไปด้วยมือของตนเอง กึ่งนั่งกึ่งนอนพาดตักเขาโดยมีแขนข้างหนึ่งโอบประคองไว้ ต่างก็ใช้แขนโอบประคองกันไว้ แก้มนุ่มและริมฝีปากถูกเฮียจูบหอมอย่างกระหาย ก่อนที่จะเลื่อนไล้ใบหน้าต่ำลงมาจนถึงลาดทรวงอิ่ม ปลายลิ้นของเขาตวัดไล้ทั่วเนื้อเนียน ลิ้นที่อุ่นร้อนตัดสลับกับกระแสไอเย็นของเครื่องปรับอากาศที่โลมไล้ผิวเปลือย ทำให้แดงขนลุกทั่วตัวเลยค่ะ สายตาตัวเองจับจ้องการกระทำของเขา มันเป็นการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งผิวกาย สายตา และโสตสำเนียงเสียงพึมพำชมเชยสลับกับครางต่ำๆในลำคอแสดงถึงความพึงพอใจของเขา
“ฮือ หนูแดงสวยจัง ผิวเนียน หอมไปหมดเลย เฮียคลั่งจะแย่แล้วรู้ไหมหนูจ๋า”
มาสะดุ้งจนถึงกับต้องแอ่นหยัดร่างขึ้นเมื่อแกใช้ปลายลิ้นแตะบางเบาเร็วๆที่เนื้อเข้มยอดเต้า โดยใช้มือข้างซ้ายลูบตระโบมที่ฐานของมัน ลิ้นที่ตวัดถี่รัวสร้างความซ่านเสียวได้มากกว่าการดูดเฟ้นมากมายเหลือเกิน ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยโดนแบบนี้นะคะ แต่โดนครั้งใดก็เสียวซ่านไปทั่วร่างทุกครั้ง
ครางสะอื้นเสียงดัง เมื่อแกขบฟันเบาๆ แล้วดูดดุนด้วยลิ้น ยอดเต้าสัมผัสกับความอุ่นร้อนในปาก ก่อนที่จะถูกคายออกมาเพื่อรับไอเย็น สลับทั้งสองเต้า
“อูย เฮียแกล้งหนูนี่ พอแล้วค่ะ ขนลุกไปหมดแล้ว”
“น่า คิดถึงจัง มีใครแอบมาดูดบ้างหรือเปล่าเนี่ย” แกงึมงำโดยไม่เงยหน้า ในขณะที่เราสะดุ้ง แต่เสหัวเราะ
“ฮิ ใครล่ะเฮีย อูย ไม่เอาแล้ว แดงแกล้งเฮียบ้างสิ” โดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว แดงขยับร่างรูดลงมานั่งที่พื้น บดเต้ากับต้นขาของเขา มือเอื้อมไปขยับปมกางเกงแพรให้หลุดออก มันลื่นลงมาติดค้างอยู่ที่เสากระโดงกลางกายซึ่งบัดนี้แข็งตัวเต็มที่
“ไหนดูซิ ไปซนที่ไหนมารึเปล่า” แล้วก็ขยับมือยกรั้งมันให้พ้นลงมา ท่อนเนื้ออวบอ้วนสีชมพูอ่อนจาง ผงาดตั้ง
อย่างช้าๆ แดงกางนิ้วเรียวเกาะกุมมันไว้ หัวสีชมพูอยู่ใจกลางอุ้งมือ ในขณะที่ปลายนิ้วทั้งห้ารัดเล่นคลึงลำจนเกือบจรดโคน อย่างนี้ละค่ะ ที่เขาเรียกว่ากุมอำนาจไว้ในมือ แกกระตุกขาเกร็งในจังหวะแรก คงเสียวที่เนื้อซึ่งไวต่อสัมผัสนั้นเสียดสีกับอุ้งมือนุ่มๆ ก่อนที่จะครางชมเชย
“ดีจัง มือหนูทั้งอุ่นทั้งนิ่ม เป็นไงคิดถึงมันไหม
แทนคำตอบ แดงกระชับปลายนิ้วรัดจนรู้สึกถึงการเต้นกระตุบของมัน รั้งขึ้นช้าๆ ก่อนที่จะรูดลงจนหนังร่นลงไปสุดคอคอด มืออีกข้างลูบคลำแผ่วๆที่พวงเนื้อประดับขนนุ่มนั้น เฮียแสงได้แต่พึมพำอย่างมีความสุข ขยับท่อนขาให้มันกดเบียดเสียดสีกับเต้าเปลือยของแดงไปมา แต่เนื้อแพรที่เรียบลื่นทำให้มันสร้างรสสัมผัสไม่เต็มที่ เขาขยับขาอีกครั้งปลดเปลือยตนเองเพียงเท่านั้นเนื้อแท้ๆของเราก็สัมผัสกัน ดูเหมือนเขาจะตื่นเต้นกับสัมผัสนั้น เพราะเอื้อมมือมากดแผ่นหลังเปลือยของแดงให้บดเบียดแนบแน่นยิ่งขึ้น แดงเองก็ตอบสนองด้วยการกดน้ำหนักตัวจนเนื้อเต้าทะลักล้นด้านข้าง หัวนมที่เสียดสีกับไรขนอ่อนสร้างความสยิววาบจนตุ่มขนลุกชัน
ไม่มีการรั้งรออีกแล้ว แดงละมือข้างหนึ่งมาปลดเปลือยท่อนร่างของตน เฮียแสงขยับเลื่อนให้ก้นมาพาดหมิ่นเหม่กับขอบโซฟา กางขาออกกว้าง ในขณะที่แดงลุกขึ้นคร่อม โอบมือรั้งรอบคอหนาของเขา ท่อนเนื้อแข็งเขม็งเสียดสีกลีบแคมโดยความตั้งใจของแดง มันคลุกเคล้าความลื่นที่แฉะฉ่ำออกมา
เฮียแสงปลุกอารมณ์แดงให้ร่านร้อนยิ่งขึ้น ด้วยการจับท่อนเนื้อนั้นเสียดเซาะกลีบร่อง ถึงกับครางเมื่อเขาดันปลายหัวเสียดสีกับเม็ดมณีครูดขึ้นลงช้าๆ และในบางจังหวะหมุนวนถึงต้องกระตุกหุบขาด้วยความเสียวซ่านสุดๆ ที่ชื้นชุ่มอยู่แล้วบัดนี้แทบทะลักเป็นสายธาร มันแฉะจนเหมือนใครเอากาวใสๆมาราดรด
“แดงจ๋า หนึ่งคิดถึงแดงเหลือเกิน ....ของแดงยังสวยน่า...เหมือนเดิมนะ”
สะดุดหูในตอนแรก เมื่อเขาเอ่ยชื่อแฟนเก่าออกมา แต่แล้วก็หลับตาพริ้มจินตนาการถึงว่าตัวเองกำลังถูกสอดใส่โดยแฟนหนุ่ม
บอกไม่ถูกค่ะว่า อารมณ์มันตื่นเพริดเพียงใด เมื่อนึกถึงภาพในอดีต กับคนที่เรารัก รู้แต่ว่าครวญครางตอบไป
“ซี๊ด เสียวเหลือเกิน ผัวจ๋า คิดถึงแดงไหม”ถ้อยคำเหล่านี้โดยปกติเราก็พูดโต้ตอบกันอยู่แล้วค่ะ เฮียเขาก็ชอบ บางครั้งถึงกับหลั่งไหลเร็วเกินไปด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่แดงพูดโดยสมมติว่าเขาเป็นหนึ่ง
“อา นุ่มดีจัง หนึ่งจะค่อยๆสอดมันเข้าไปแล้วนะ”เฮียแสงสานต่อจินตนาการของเรา เขาเองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน สังเกตจากมือไม้ที่ลูบคลำเปปะไปทั่วร่างมีอาการระริกสั่นเล็กน้อย ลมหายใจแรงถี่เร็ว ก่อนที่จะวกมือลงมาจับท่อนลำของตนเองให้เสยสอดเข้าไปปริ่มปากทางนั้น
“อี๋ย์ ของหนึ่งใหญ่จัง ช้าๆนะจ๊ะ เดี๋ยวแดงช่วย” ตนเองเบียดแอ่นก้นถ่างขาอวบกางแบะออกเต็มที่ เพื่อให้กลีบแคมเผยออกและเป็นฝ่ายกลืนกินท่อนเนื้อเข้าไปในร่างเสียเอง น้ำเมือกชุ่มลื่นหลั่งไหลออกมามากมายแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน มันชุ่มจนแทบจะเยิ้มหยาดเป็นหยด
ขมิบกล้ามเนื้อเกร็งทุกกระเบียดที่มันสอดแทรกเข้าไปในร่าง ก่อนที่จะคลายแล้วขยับเอวกลืนกินมันเข้าไปทีละนิด รู้สึกถึงความแข็งเขม็งของมันที่เสียดครูดภายใน มันแข็งเต็มตัวกว่าทุกคราว จนไม่น่าเชื่อว่าเป็นของชายที่อายุย่างเข้า 50
“ซี๊ด ดีจังเลยเมียจ๋า หนึ่งคิดถึงตรงนี้เหลือเกิน”เขาครางพร้อมกับที่สอดมือลงไปคลึงเคล้ากับกลีบแคมและถูขยี้ติ่งเนื้อด้าบนเล่นเอาแดงสะอื้น กายส่ายไหวบิดเกร็งจิกเล็บฝังไหล่เขาเบาๆอย่างไม่รู้ตัวด้วยความเสียวที่วาบแผ่ไปทั่วร่าง ก่อนที่จะเอามือช้อนเต้าขาวของตนเองแอ่นอกขึ้นเป็นสัญญาณให้เขาจูบเคล้ามัน
“ดูดนมเมียด้วย หนึ่งขา แดงเต็มแน่นไปหมดแล้ว”เขาผงกหน้าประกบเคล้าเนื้อนุ่มอย่างกระหาย ก่อนที่จะเม้มปลายยอดขบคลึงด้วยริมฝีปากแล้วสัมผัสไล้ด้วยปลายลิ้น แดงลืมตัวรั้งคอเขาบดอัดขยี้ จนในที่สุดเขาต้องดึงดันออกเพื่อระบายลมหายใจ ก่อนที่จะฟุบลงไปเฟ้นจูบใหม่
เนื้อตัวของแดงคงแดงเป็นรอยไปหมด เพราะอารมณ์หื่นกระหายของเฮียเขา เพราะทุกแห่งที่มือเขาลูบคลำไปถึงเนื้อนุ่มจะถูกขยำ ไหล่กลม แขนเรียว ชายโครง สะโพก แม้กระทั่งหน้าท้อง บางจุดแดงต้องร้องปราม แต่ส่วนใหญ่แล้วมันให้ความพึงใจเหลือเกินค่ะ
ในระหว่างนี้ แดงกลืนท่อนเนื้อเขาฝังเข้าไปในร่างจนมิดโคนแล้วค่ะ เฮียแสงสูดปากครางเมื่อแดงขมิบรัดเนิ่นนาน เพราะเสร็จสมไปแล้วครั้งหนึ่ง ซบหน้าลงกับไหล่เขา กระซิบเบาๆ
“เสร็จแล้วจ้ะ แดงคิดหนึ่งจัง อูยเฮียขา อย่าเพิ่งขยับค่ะ แดงเสียวจะแย่แล้ว”
เฮียแสงผ่อนจังหวะลงแต่ไม่ถึงกับหยุดนิ่ง มือทั้งสองกดยุดปลีสะโพกแต่ละข้าง เอวส่ายเคลื่อนไหวช้าๆ
เพื่อผ่อนคลายความเสียวซ่านของแดง ปากที่ดูดเฟ้นเต้าเปลี่ยนมาเป็นเวียนจูบหอมไล่ตั้งแต่พวงแก้ม ซอกคอ ลาดไหล่ ก่อนที่จะมาซุกไซ้เบาๆที่ฐานเต้าทั้งสอง
ชั่วไม่นานค่ะ จากการถูกเสียดสี เบียดกระทบภายในและการโลมไล้ภายนอก ร่างกายของแดงก็ขับหลั่งน้ำหวานออกมาอีก คงจะประทับใจเฮียเขามากถึงกับกระซิบ
“น้ำออกมากจัง คราวนี้ขอหนึ่งราดรดในตัวแดงบ้างนะ”เพียงแค่นี้อารมณ์ก็เพริดจนต้องแอ่นหน้าขาเข้าบดเบียดและบิดเอวร่อนเป็นวงจนเนินเนื้อขยี้เคล้ากับพงขนของเขา ทุกซอกหลืบในร่างถูกเสียดสีทิ่มแทงโดยเนื้อแท้ๆที่แข็งราวกับท่อนไม้ เมื่อผสมกับการออกแรงยกรั้งของเฮียแสงแล้วร่างของเราทั้งสองก็กระแทกกระทั้นกันจนเกิดเสียงดังเป็นจังหวะถี่รัว
“อือม์ ดีเหลือเกินจ้ะ แรงๆเร็วๆเลยหนึ่งขา เมียชอบแบบนี้จัง”
พอได้ยินแดงเอ่ยถึงแฟนเก่าดูเหมือนเฮียแสงจะลืมตัวลืมวัยไปเสียแล้ว แกกระหน่ำซอยแบบไม่ยั้ง หยัดแอ่นหน้าขาขึ้นลงรุนแรงจนเก้าอี้สะเทือนไหว ถ้ามีใครอยู่ในบ้านคงนึกว่าเกิดแผ่นดินไหวแน่นอนค่ะ เนื้อที่เอวคอดเป็นปื้นแดงด้วยแรงขยำเคล้นของแก ก็เจ็บบ้างหรอกค่ะ แต่มันให้อารมณ์พึงใจอย่างยิ่งเช่นกัน
“ดีไหมจ๊ะ.... เมียจ๋า หนึ่งทำดีไหม.... วันนี้หนึ่งขอราดรดให้ชุ่มข้างในเลยนะ”เฮียแสงกระหืดกระหอบครางเป็นช่วงๆ สองมือตวัดรั้งโอบรอบก้นแดงให้อัดบดเข้าไปจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน กล้ามเนื้อที่รัดรอบลำแข็งนั้นสัมผัสรู้ถึงอาการเบ่งพองกระตุบเต้น และกระแสกามอุ่นที่หลั่งรดภายใน ตัวเองบดหน้าขาเสียดขยี้เพื่อให้ถึงจุดสุขสมเดียวกัน เหงื่อพราวไปทั้งคู่ทั้งๆที่อยู่ในห้องแอร์
“โอย ดีเหลือเกินแดงจ๋า ปล่อยเฮียก่อน”เขาครางแผ่วระโหย หน้าที่เมื่อครู่แดงเพราะฤทธิ์เบียร์ตอนนี้ขาวเผือดปราศจากสีเลือด แดงตกใจไม่น้อยเลยค่ะ นึกถึงที่เขาออกแรงอย่างมากและความตื่นเต้นสุดขีดเมื่อครู่ทำให้แดงคิดว่าเขาอาจเป็นลมได้ ไม่ทันได้อิ่มเอมกับรสรักให้เนิ่นนานไปกว่านั้น แดงก็ต้องผุดลุกขึ้นยืนร้องอย่างตกใจ
“เฮีย เป็นอะไรหรือเปล่า นอนพักก่อนนะคะ” เฮียแสงพยายามฝืนยิ้ม เอื้อมมือมาตบสะโพกเบาๆเหมือนจะปลอบใจว่าไม่เป็นอะไรมาก แดงช้อนประคองศรีษะเขาให้นอนราบลง อุทิศตักตัวเองเป็นหมอนหนุน
แกหลับตาหายใจถี่เร็วอย่างเหนื่อยเต็มที สักครู่สีหน้าจึงค่อยมีเลือดฝาดขึ้น ลืมตาจ้องหน้าแดงซึ่งมองเขาอยู่ก่อนแล้วอย่างเป็นห่วง
“ขอโทษ ทำเอาหนูแดงตกใจหมด เฮียดีขึ้นแล้ว เมื่อคืนเฮียอดนอนน่ะ”
“อย่าเพิ่งพูดเลยค่ะ เฮียพักก่อนเหอะ นอนหลับไปเลยก็ได้ เดี๋ยวแดงจะไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้นะคะ”
คว้าหมอนที่หล่นอยู่ข้างล่างมาหนุนศรีษะเขาแทน ชั่วเวลาไม่นานแดงก็ลูบไล้ร่างเปลือยของเขาด้วยผ้าชุบโคโลญจ์ แดงเองก็เปลือยอยู่เหมือนกันค่ะ เพียงแต่จัดการกับคราบไคลต่างๆอย่างลวกๆไปแล้ว
เฮียแสงนอนโชว์พุงมองแดงจัดการกับตัวเขา รอยยิ้มพึงใจปรากฎที่มุมปาก ในขณะที่ใช้มือนุ่มสัมผัสไล้เรือนผมและเรือนร่างของแดงแผ่วๆสัมผัสนั้นสื่อถึงความรักใคร่เอ็นดู ซึ่งทำให้แดงรู้สึกไม่สบายใจนักเมื่อนึกถึงการกระทำในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำหนิที่ตนเองเผลอไผลปล่อยใจไปได้ถึงเพียงนั้น
“คิดอะไรอยู่หรือ...ช่วยหยิบเบียร์ให้เฮียหน่อยสิ”
“ทานได้เหรอคะ”
“ปั้ดโธ่ เฮียไม่เป็นอะไรหรอกน่า แค่เผลอลืมตัวเป็นไอ้หนึ่งไปหน่อยเท่านั้น”
เลือดขึ้นหน้าแดงซ่านเมื่อคิดถึงฉากสวาทประกอบเสียงที่ผ่านมาเมื่อครู่ จับคางเขาสั่นเบาๆ
“ห้ามพูดอีก เล่นบ้าๆอะไรก็ไม่รู้ เบียร์หายเย็นแล้ว เดี๋ยวแดงไปหยิบมาให้นะคะ”
รู้สึกหนาวขึ้นมาจึงหยิบเสื้อยืดขึ้นมาสวม ปล่อยเปลือยท่อนร่าง
“แดงว่าเฮียไปนอนที่เตียงดีกว่า จะได้ห่มผ้า ไม่หนาวเหรอ”
“หยิบเสื้อคลุมในตู้ให้เฮียด้วยก็แล้วกัน นั่งคุยกันตรงนี้ดีกว่า”
แดงกลับมานั่งเบียดเขาซึ่งตอนนี้ลุกขึ้นแล้ว ยื่นแก้วเบียร์กับเสื้อคลุมส่งให้ เฮียแสงเหลือบมองโคนขาที่โผล่พ้นชายเสื้อออกมา พอเห็นรอยปื้นแดงบนเนื้อที่เคยขาวเนียนนั้นก็พึมพำ เอื้อมมือมาลูบเบาๆ
“เจ็บมั้ยเนี่ย เฮียลืมตัวไปหน่อย”
สั่นหน้าปฏิเสธ เอื้อมมือไปรินเบียร์ให้ตนเองบ้าง
“เป็นไง ตอนนี้รู้เรื่องรถขับรถคล่องแล้วสินะ”
“ค่ะ” กำลังจะชมพี่สามารถว่าเป็นครูที่ดี แต่ยั้งไว้แบบคนมีพิรุธ
“อือม์ สามารถมันก็บอกเหมือนกันว่าหนูเรียนรู้เร็ว”
ถึงตอนนี้เขาเอนหลังหลับตาพิงพนักโซฟา
“ความจริงเฮียก็ไม่ปกตินักหรอก ไปกรุงเทพฯคราวนี้เลยให้หมอตรวจละเอียด หัวใจกับความดันไม่ค่อยดีเท่าไร”
“อ้าว แล้วยังดื่มเบียร์แต่วันอีก”
แกโบกมือหัวเราะ
“ยังไม่ตายหรอกน่า หมอบอกว่ายังดื่มได้อีกหลายลัง”
“บ้า หมอที่ไหนจะบอกคนไข้แบบนั้น”
“เป็นห่วงเฮียจริงๆน่ะเหรอ”
“ห่วงสิ เฮียเป็นอะไรไปแล้วแดงจะอยู่กับใคร”
“ไอ้มาดสิ ฮ่ะฮ่ะ!” แกหัวเราะชอบอกชอบใจ แต่แดงใจหายวูบ จ้องตาแกเขม็งก่อนเป็นฝ่ายหลบตาเมื่อเห็นแกเองก็จ้องตอบมา แดงไม่พบร่องรอยอะไรในแววตาแก
“ทำไมเฮียคิดอย่างนั้นล่ะ”พึมพำถามหยั่งเชิง ใจก็คิดว่าบางทีเราอาจจะทิ้งร่องรอยอะไรไว้ เช่น มีคนมาพบตอนพี่สามารถกอดจูบแดง แล้วมาบอกเฮียแสง
แกลูบหัวเราเล่นเบาๆ
“แดงเคยอ่านเรื่องโกวเล้งรึเปล่า มีคำพูดประโยคหนึ่งว่า มีแต่เพียงไม่กระทำเท่านั้น จึงจะปิดเป็นความลับได้”
เหมือนใครเอาถังน้ำแข็งมาราดรดทั่วทั้งตัวตลอดเข้าไปถึงภายใน แดงสะดุ้งเย็นวาบไปหมด เงยหน้าขึ้นมองตาเขาอีกครั้งแล้วรีบหลบ รู้สึกมือไม้สั่นระริก อึกอักแต่พูดไม่ออก จำได้ว่าตอนนั้นไม่รู้จะสารภาพดีหรือปากแข็งดี
“ไม่ต้องตกใจหรอก เฮียไม่ว่าอะไร ยังรักหนูเหมือนเดิม แล้วก็ขอบใจด้วยที่แดงพยายามอดกลั้นได้ถึงขนาดนี้ ไม่ยอมให้มันล่วงล้ำเข้าไป นับว่ายังให้เกียรติเฮียอยู่”
น้ำเสียงที่จริงใจและปรานีของเขาทำให้แดงสะอื้นไห้ออกมา กราบที่อกเขาระล่ำระลักขอโทษแล้วซบหน้าลงร้องไห้ มือของเฮียยังลูบไล้เรือนผมอย่างนุ่มนวลอยู่เช่นเดิม ทำให้คลายใจไปได้มาก
“เฮียรู้หมดแล้วเหรอคะ”
“ฮื่อ เพราะรู้ทั้งหมดนี่แหละเฮียถึงไม่โกรธแดง”
คงเป็นเพราะสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยมั้งคะที่ทำให้เฮียเขาอธิบายต่อ
“สงสัยเหรอ จะบอกให้นอกจากเฮียจะไม่โกรธหนูแล้ว ยังเห็นใจด้วย สามารถมันเป็นลูกผู้ชายพอ แล้วก็คบกับเฮียชนิดที่เรียกว่ายิ่งกว่าพี่น้อง เมื่อตอนสายๆมันแจ้นมาหาเฮีย มาสารภาพผิด”
“เขาเล่าอะไรให้เฮียฟังบ้างล่ะ”
“ก็เล่าหมดแหละ เรื่องที่มันใช้กำลังกับหนู แล้วก็เรื่องที่มันเผลอใจไปมีอะไรกับเราเข้าบ้าง แม้กระทั่งเมื่อวาน ที่เฮียดีใจก็คือ หนูยังหักห้ามตัวเองได้ ความจริงแล้วมันรักหนูมากนะ ถึงกับเอ่ยปากขอด้วยซ้ำ”
แดงทั้งเสียใจ ละอายใจ กังวลใจด้วย เรื่องที่กลัวมากที่สุดก็คือ จะว่าไปแล้วแดงเป็นคนก่อไฟในครั้งหลังขึ้นด้วยซ้ำ ด้วยความที่ไม่รู้ว่าเรื่องที่พี่สามารถเล่านั้นเป็นอย่างไรจึงต้องพูดกลางๆเพื่อหยั่งท่าที
“แดงเองก็ไม่ดีด้วยค่ะ ความจริงควรจะห่างๆเขาไว้”
“หนูเอ๋ย...”แกพูดเสียงปรานีเหมือนเดิม “เฮียเคยบอกหนูแล้วใช่มั้ยว่าเฮียไม่ถือสาถ้าหนูจะไปมีความสุขบ้าง ไม่มีอะไรที่เฮียต้องตำหนิแดงเลยนะ”
“แต่แดงรู้สึกผิด.ผิดอย่างมากเลยค่ะ”
“จะว่าไปหนูก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ เราอย่าไปพูดถึงมันเลย อย่างที่เฮียบอก เฮียเองก็ไม่ถือสาเรื่องนี้ ไม่งั้นเมื่อกี้จะยอมลงทุนเป็นไอ้หนึ่งเหรอ แต่ก็ได้ผลนะ” ไม่เพียงแต่ปากเท่านั้นที่พูด มือของเขาที่ลูบเนื้อโคนขาพ้นชายเสื้อเบาๆไปมานั้น ตอนนั้นสอดวาบเข้าไปเกาะกุมเนื้อนูน ขยุ้มมือเบาๆกับส่วนนั้น จนแดงต้องกระตุกขา
หุบหนีบมือเค้าไว้แน่น แต่ไม่มีอารมณ์ที่จะพูดโต้ตอบ จนเฮียเขาเป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นมาอีก
“อย่ากังวลน่าแดง มันจะทำลายความสดใสของหนูนะ เอางี้เฮียขออย่างเดียวแล้วกันจะได้สบายใจ หนูจะมีอะไรกับไอ้มาดเฮียไม่ว่า ถ้าต้องการนะ แต่ระวังอย่าให้ใครรู้ใครเห็น หมายถึงคนในบริษัท แล้วก็ อ้าขาหน่อยสิ เฮียชอบจับตรงนั้นหนูก็รู้นี่ ฮ่ะๆ”
กริยาที่ยังร่าเริงเหมือนเดิมของเขาทำให้แดงคลายกังวลไปได้มาก อดใจไม่ได้ที่จะถามเขาบ้าง
“เฮียว่าพี่สามารถมาขอหนู แล้วเฮียว่าไงคะ”
“ก็บอกว่าเอาไปเลย กูยกให้”เขาทำท่าจะหัวเราะ แต่แล้วชะงักเมื่อเห็นสีหน้าของแดง “โอ๊ะ โอ๋ ไม่ต้องทำหน้าจะร้องไห้หรอกน่า เอียตอบไปว่าเดี๋ยวก็ถีบให้ แล้วก็บอกว่าเรื่องนี้แล้วแต่หนู เฮียไม่หวงไม่ห้าม”
จำได้ว่าไม่มียกสองค่ะสำหรับวันนั้น เพราะแดงเองก็ไม่สามารถปลุกเร้าอารมณ์ขึ้นมาได้อีก นึกกระดากด้วยซ้ำที่ก่อนหน้านั้นแสดงอารมณ์ออกไปมากเหลือเกินเมื่อนึกถึงแฟนเก่า ในขณะที่เฮียแสงเองก็คงเหนื่อยกายไม่น้อยเพราะชั่วไม่นานเขาก็ย้ายไปนอนที่เตียงให้แดงนวดให้ ก็บีบๆกดๆล่ะค่ะ จนหลับไป อย่างไรก็ตาม เราสองคนหรือที่ถูกก็คือแดงเข้าใจเขามากขึ้น สบายใจขึ้น แล้วก็รักเฮียมากกว่าเดิม
กลับถึงบ้านก็เย็นมากแล้ว เหมือนกับจะรู้ เพราะทันทีที่ย่างเท้าเข้าบ้านเสียงกริ่งโทรศัพท์ก็ดังขึ้น แดงรู้สึกไม่สบายใจขึ้นอีกครั้งเมื่อพบว่าเป็นพี่สามารถที่โทรมา เพราะแดงยังคิดไม่ตกว่าจะเอาอย่างไรดี ดังนั้นจึงรู้สึกหงุดหงิดเมื่อเขาพยายามชวนไปที่บ้านเพื่อจะอธิบายเรื่องทั้งหมดและขอทราบคำตอบของแดง ทะเลาะกับเขาเล็กน้อยก่อนที่จะวางสาย
แดงคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดระหว่างที่ปล่อยตัวเองให้อยู่กลางสายน้ำฝักบัวเย็นฉ่ำผสมกับอากาศที่หนาวเย็นยิ่งอยู่แล้ว แต่นั่นทำให้ความคิดของแดงตื่นตัว
คำถามแรกที่ถามตัวเองก็คือ ผิดไหมในสิ่งต่างๆที่ทำลงไป มันก็มองได้สองแง่ หากถือว่าเพศหญิงควรรักนวลสงวนตัว มีรักเดียวใจเดียวนั้น สิ่งที่ทำก็คือความผิดและความน่าละอาย แต่ถ้ามองอีกแง่หนึ่ง แดงเองตอนนั้นอายุ 23 แล้ว มีงานทำและทำด้วยความรู้ความสามารถมิได้ใช้ร่างกายของตนเองเป็นเครื่องมือ สิ่งที่เกิดขึ้นก็มองได้ว่าเป็นการแสวงหาความสุข ซึ่งมนุษย์ทุกคนมีทางเลือกที่แตกต่างกัน แดงกับเฮียแสงก็ไม่ได้มีพันธะผูกพันอะไรกันและเขาเองก็ไม่ว่าอะไร ดังนั้น การกระทำของแดงจึงไม่ทำให้ใครเดือดร้อน หากจะเดือดร้อนแล้วก็คงเป็นตัวแดงเองเสียมากกว่าเพราะแดงเป็นเพศหญิง ซึ่งความเดือดร้อนนั้นอาจมาได้สองแบบคือทางกายกับทางสังคม
สำหรับทางกายนั้นในเรื่องการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงปรารถนาคงเกิดขึ้นได้ยาก เพราะแดงเองก็ป้องกันตัวเองอยู่ จากความก้าวหน้าของมนุษย์ในเรื่องของการคุมกำเนิด มนุษย์จะคิดเรื่องการคุมกำเนิดขึ้นมาทำไม หากไม่ใช่เพื่อต้องการที่จะมีความสุขทางเพศโดยไม่ต้องกังวลกับการตั้งครรภ์ คิดดังนี้แล้วก็สบายใจมากขึ้นเพราะแดงมีพวกพ้องร่วมโลกมากมายเหลือเกิน
อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องโรค หวาดเสียวเหมือนกันค่ะ เพราะเราไม่ได้ป้องกันในเรื่องนี้เท่าที่ควร ด้วยเหตุว่าบางครั้งอารมณ์มันพาไปหรือรู้สึกไม่ดีหากจะใช้มันก็ตาม คำถามต่อมาก็คือ จะยอมเสี่ยงไหม และไว้ใจคนที่เรายุ่งเกี่ยวได้เพียงใด การเลือกที่จะได้ทุกอย่างโดยไม่ต้องเสียอะไรนั้นไม่มีอยู่แล้วในโลกนี้ ดังนั้น เมื่อแดงเลือกที่จะมีความสุขแบบนี้ ก็ต้องยอมรับในโอกาสเสี่ยงที่จะตามมา โอกาสเสี่ยงซึ่งจะลดลงได้บ้าง หากเราเลือกคนและบางครั้งก็ต้องเลือกที่จะป้องกัน
ความเดือดร้อนทางสังคมนั้น แน่นอนว่าสิ่งที่แดงกระทำเป็นเรื่องที่สังคมอาจตั้งข้อรังเกียจได้ แม้แต่คนที่กำลังกระทำหรือเคยกระทำอย่างเดียวกันมา มันเป็นกลไกของสังคมที่จะป้องกันไม่ให้สมาชิกมีพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนและสังคมมีบทลงโทษที่หนักเบาแตกต่างกัน หนักที่สุดหรือเป็นรูปธรรมที่สุดก็คือบอกว่า สิ่งที่เราทำนั้นผิดกฎหมาย ที่คลุมเคลือก็คือการติฉินนินทา ไม่คบค้าสมาคม เรื่องกฎหมายนั้น การกระทำของแดงไม่ผิดแน่ หากกระทำในที่มิดชิดเพราะถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ส่วนเรื่องการนินทานั้น มันเหมือนเป็นตาข่ายของสังคมที่หากเราแคร์มันมากไป เราก็คงไม่เป็นตัวของตัวเอง และจะว่าไปแล้วการที่โลกใบนี้มีอารยธรรมมาได้จนถึงทุกวันนี้ อารยธรรมซึ่งบางคนบอกว่าเจริญทางวัตถุแต่ตกต่ำทางจิตใจ แต่ในที่สุดตัวเองก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะเสพสุขกับความเจริญก้าวหน้าของมันนั้น ก็เพราะมีคนที่กล้าแหกคอก มีคนที่ยอมที่จะถูกติฉินนินทา ซึ่งบางครั้งต้องรอให้เวลาผ่านไปเป็นสิบหรือร้อยปี สังคมที่เคยนินทาเขากลับหันมายกย่องเขา เหมือนอย่างที่กาลิเลโอออกมาท้าทายว่าโลกใบนี้กลมแล้วก็ถูกกระทำแบบคนที่ไร้คุณค่า
อย่างไรก็ดี เรื่องของการมีเพศสัมพันธ์นั้นไม่ใช่เรื่องที่น่ารังเกียจอย่างแน่นอน จะว่าไปแล้วมีผู้คนมากมายที่ได้ใช้ความพยายามให้มันกลายเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง เป็นสุนทรียศาสตร์ของสรีระและความรัก เป็นภาพถ่าย ภาพวาด เป็นเรื่องประโลมโลก หรือแม้กระทั่งเป็นคู่มือหรือตำรา วิวัฒนาการก้าวตามเทคโนโลยีจนกระทั่งมาสู่ระบบอินเตอร์เนตอย่างที่ท่านกำลังนั่งอ่านอยู่ในปัจจุบัน หากเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจแล้วมันคงกลายเป็นศิลปะไปไม่ได้แน่นอน หากมันจะพึงมีโทษบ้างก็ตรงที่ผู้กระทำนั้นหมกมุ่นแบบไม่ลืมหูลืมตาและปล่อยให้มันมาเป็นนายเหนือสติปัญญาของเรา ดังนั้น หากจะสรุปว่าการเปลี่ยนคู่ก็เหมือนกับศิลปินนักวาดกำลังจะเริ่มแต่งแต้มระบายสีภาพใหม่ของเขาจะได้ไหม
แดงคิดว่าได้ ถ้าเราคิดว่าตัวเราเป็นศิลปิน และเชื่อว่าสิ่งที่เรากระทำนั้นเป็นศิลปะ เราอาจจะเป็นศิลปินที่ห่วยแตกหรือเลิศเลอก็แล้วแต่คนที่เสพผลงานของเรา แต่เราก็มีสิทธิที่จะเป็นไม่ใช่หรือ ขอเพียงอย่างเดียวกระทำด้วยความมุ่งมั่นสร้างสรรค์และรู้ตัวในสิ่งที่กระทำ
คำตอบที่แดงได้ในท้ายที่สุดก็คือ ขอเพียงแต่เราเป็นผู้เลือกที่ไตร่ตรองแล้วในผลที่จะตามมา และการเลือกของเรานั้นไม่ทำให้ใครเดือดร้อนโดยตรง นั่นก็เป็นสิทธิที่เราสามารถทำได้ และหากเราจำเป็นที่จะกลายเป็นเหยื่อหรือเป็นฝ่ายถูกเลือก ก็ขอเพียงแต่เราได้รู้เหตุผลว่าเหตุใดเราจึงยอมเป็นเหยื่อ
ความคิดของแดงในตอนนั้นได้ข้อสรุปแบบนี้ แต่ไม่สละสลวยชัดเจนเพียงนี้หรอก ค่ะ สิ่งที่เขียนข้างต้นนั้นเป็นการเอาความคิดในตอนนั้นมาเจียรนัยโดยความรู้และตัวตนของแดงซึ่งเป็นอยู่ในปัจจุบัน
ดังนั้น ในเย็นวันศุกร์ถัดมาแดงจึงไม่รู้สึกอึดอัดอะไรมากนักเมื่อเราสามคนต้องเดินทางไปต่างจังหวัดด้วยกันเพื่อเข้าร่วมการสัมมนาเพื่อเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของบริษัท
ความจริงทางบริษัทเขาเชิญแค่สองคนเท่านั้นค่ะ คือฝ่ายขายคนหนึ่งกับฝ่ายช่างคนหนึ่ง แต่เนื่องจากฝ่ายขายทั้งสองคนคือพี่อรอนงค์กับพี่วิบูลย์ไม่ว่าง เฮียแสงจึงไปแทน ส่วนพี่สามารถนั้นเป็นตัวแทนฝ่ายช่าง สำหรับแดงนั้น เป็นตัวแถมค่ะ เฮียเขาขอบริษัทให้จัดที่ให้ ส่วนค่าใช้จ่ายทางเราออกเอง
รถเก๋งคันโตสีน้ำเงินเข้มขับโดยพี่สามารถโดยมีแดงนั่งข้างคนขับและเฮียแสงนั่งเอกเขนกคนเดียวอยู่ตอนหลังพาเรามุ่งสู่จังหวัดศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนใน เราออกเดินทางกันสายหน่อยกะว่าไปให้ถึงทันลงทะเบียนเวลาบ่ายโมง
ในความรู้สึกของแดงมันก็แปลกดีเหมือนกันค่ะที่นั่งมากับผู้ชายสองคนที่ต่างฝ่ายต่างมีอะไรกับตัวเอง
และแต่ละฝ่ายก็รู้ถึงความสัมพันธ์ของอีกฝ่ายด้วย มันเริ่มตั้งแต่ตอนขึ้นรถแล้วค่ะ เมื่อเฮียเขาเห็นแดงในชุดเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงินเข้มรัดรูป กางเกงยีนส์สีขาวฟิตเปรี๊ยะ มันคงอวดเรือนร่างของแดงอยู่มากเหมือนกันค่ะ
“โห แดงสวยจังวันนี้ คิดไม่ผิดเลยที่เอาไปด้วย จริงมั้ยมาด” เขาหันไปกล่าวกับลูกน้องและเพื่อนรัก พี่มาดยิ้มกว้าง
“แดงเค้าสวยทุกวันอยู่แล้วน่ะเฮีย หรือเฮียเพิ่งเห็นเขาสวยวันนี้”
“ไม่รู้สิวันนี้ดูอวบกว่าทุกวันแฮะ”
มันชักจะไปกันใหญ่จนแดงต้องปราม
“นี่ถ้าพูดมากกันอีกแดงไม่ไปจริงๆด้วย”
เฮียแสงหัวเราะ “ดูสิงอนแล้ว”
“ตรงไหนงอนเฮีย”
ทั้งคู่ยังคงแซวแดงต่ออีกสองสามประโยคจนกระทั่งแดงต้องปรามดังๆน่ะค่ะ ถึงเงียบกันไปได้
“นี่ให้เกียรติสุภาพสตรีหน่อยได้มั้ย”
ทั้งคู่คงรู้ตัว ทำหน้าเจื่อนๆยอมตามแดงเข้าไปนั่งในรถโดยดี ความจริงประโยคข้างต้นน่ะถูกครึ่งเดียวนะคะ คือแดงเป็นสตรี เพียงแต่ไม่ค่อยจะสุภาพเท่าไร
ไม่ทันพ้นเขตจังหวัด เฮียแสงก็กรนครอก ส่วนแดงกับพี่สามารถก็คุยกันบ้างเรื่องสายลมแสงแดดอะไรทำนองนี้แหละค่ะ จนกระทั่งเสียงกรนของแกดังเข้ามาขัดจังหวะการคุยของเรา พี่สามารถหันมายิ้ม
“ไปสู่สุคติแล้วเฮียเรา”
“บ้า พี่ไปแช่งแก แล้วก็หันไปได้แล้ว เดี๋ยวก็ลงข้างทางหรอก”
“ไม่ลงหรอกน่า พี่น่ะใช้ตาซ้ายเล็งตาขวามอง”
“ยังไงนะ” แดงชักงงค่ะ
“ก็ตาขวาก็มองทางไง ส่วนตาซ้ายก็เล็งตรงนี้ วันนี้รัดจนอวบเลยนะ”ไม่พูดเปล่าเขาละมือซ้ายจากพวงมาลัยมาบีบเบาๆที่ทรวงอกซึ่งดันเสื้อยืดออกมาจนนูนเด่นแวบหนึ่ง เร็วจนตีมือเขาไม่ทัน
“บ้า พี่นี่ เดี๋ยวเฮียเห็น”แดงลดระดับเสียงลงมา แต่ใจเริ่มเต้นระทึกเหมือนเด็กกำลังสมคบกันขโมยขนม มันมีความสุข แต่ก็กลัวคนจับได้
“ก็บอกแล้วไงว่าไปสู่สุคติแล้ว ลองกรนยังงี้เอาแตรวงมาเล่นก็ไม่ตื่น สงสัยเมื่อคืนนอนดึก เอ๊ะหรือว่าไปกับแดง”
แดงหยิกเขาหมับเข้าให้บ้าง เอาใกล้ๆโคนขา แต่คงไม่เจ็บเท่าไรหรอกค่ะ เพราะแกนุ่งยีนส์
“บ้าเหรอพี่ ต่างคนก็ต่างอยู่สิ”
“ทำไมช่วงนี้ถึงไม่ให้โอกาสพี่เลย”แกหมายถึงช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาน่ะค่ะ ซึ่งแดงไม่ไปตามที่เขาชวนเหตุผลที่สำคัญที่สุดคือเป็นเมนส์ค่ะ เหตุผลที่รองลงไปคือ ยังไม่ค่อยสบายใจนัก
“ก็แดงเป็นเมนส์”
“อ้าวเหรอ พี่นึกว่าเฮียแกห้ามซะอีก”
“เฮียแกเป็นผู้ใหญ่แล้ว แกไม่ห้ามหรอก แต่แดงไม่สบายใจ”
“ทำไมละเฮียบอกแดงว่าไงบ้าง”มือของเขาเลื่อนมากุมมือแดงไว้ ฝ่ามือที่สากและกระดูกข้อนิ้วที่แข็งโปนให้ความรู้สึกของมือผู้ชายได้ดีกว่ามือนุ่มๆ
“แกก็บอกว่าแล้วแต่แดง แดงร้องไห้เลยนะรู้มั้ย ตอนนั้นรู้สึกผิดจังเลย แล้วกับพี่ล่ะแกว่าไง”รู้สึกว่ามือนั้นบีบมือเราแน่นกระชับขึ้นเหมือนปลอบใจ
“ก็คล้ายกันน่ะแหละ ตอนแรกแกหน้าตึงอยู่เหมือนกัน แล้วคงคิดอะไรได้ แกบอกแกไม่ห้าม แล้วแต่แดง แต่ให้ระวังด้วย อย่าให้คนเอาไปพูดกัน แกเสียหน้า”
ก็รู้สึกแปลบๆอยู่เหมือนกันนะคะ เออหนอผู้ชาย ทำไมถึงคิดแค่กลัวเสียหน้านะ อดหันหน้ากลับไปมองแกไม่ได้ ยังหลับสนิทกรนสนั่นอยู่เหมือนเดิม
“แค่เสียหน้าเองเหรอพี่ที่แกกลัว แกไม่ได้แสดงว่าหวงแดงบ้างเหรอ”
“ก็ตอนแรกนะ แวบแรกพี่ว่าแกหึงอยู่เหมือนกัน แต่แกอาจจะกังวลสุขภาพแกก็เลยปลง แดงรู้แล้วใช่มั้ยว่าแกเป็นโรคหัวใจ”
“ค่ะ แดงทราบแล้ว แต่แดงสงสัยว่าแกไม่รักแดงเลยเหรอ”
“รักน่ะคงจะรัก รักมากด้วย ก็เลยไม่อยากปิดกั้นแดงไง ส่วนที่แกว่ากลัวเสียหน้า แดงต้องเข้าใจผู้ชายนะ สมมติว่าอยู่ดีๆแฟนเราเกิดไปมีคนอื่น มันเป็นเรื่องน่าขายหน้า เขาคงพูดกันให้แซดว่าไอ้นี่บ่มิไก๊ ไม่มีน้ำยา แล้วอีกอย่างแกต้องปกครองลูกน้องด้วย”
“แสดงว่าเรื่องของแดงกับเฮียเค้ารู้กันทั่วบริษัท”
คราวนี้พี่สามารถส่ายหน้า
“คงไม่หรอก เพราะไม่มีข่าวเข้าหูพี่เลย แดงก็รู้นี้ไอ้พวกช่างผู้ชายมันชอบเธออยู่ตั้งหลายคน แต่ถ้าถามว่าเขาสงสัยกันได้ไหม มันก็เป็นไปได้ เฮียเค้าก็เลยต้องระวังตัว”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น